Ulthera หรือถ้าเอาภาษาแบบเข้าใจง่าย ๆ เลยคือ การกระชับใบหน้า แน่นอนว่ามันคือเทคโนโลยีความงามอย่างหนึ่งที่ทันสมัยเป็นอย่างมาก ณ ปัจจุบันเลย เพราะว่ามันคือการกระชับใบหน้าเราด้วยคลื่นความถี่หนึ่งที่เป็นพระเอกของวงการนี้ก็คือ Ultrasound มาใช้งานในด้าน Ulthera แต่ถึงอย่างไร Ulthera ถือเป็นทฤษฎีที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวเลยครับ เพราะในความเป็นจริงเพียงแค่คลื่น Ultrasound มันสามารถทำให้หน้าของเรากระชับได้โดยที่เราไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องเสียเวลาฟื้นฟู และไม่ส่งผลในเชิงลบต่อร่างกายของเราอีกด้วย แล้วมันทำได้อย่างไร? ผมมีคำตอบครับ
ก่อนอื่นเรามาเข้าใจหลักการของ Ulthera กันดีกว่าครับว่าขั้นตอนมันเป็นอย่างไร การทำ Ulthera จะเป็นการส่งคลื่นที่มีความถี่สูงด้วย Ultrasound ไปยังชั้นใบหน้าที่ทำการผลิตคอลลาเจนซึ่งก็เป็นโปรตีนที่เกิดจากการสังเคราะห์ขึ้นมาเองในร่างกายเรา ทำให้ร่างกายของเรามีผิวหน้าที่แข็งแรงและยืดหยุ่น รวมถึงใบหน้าเราเช่นกันครับ โดย Ultrasound มันจะไปกระตุ้นคอลลาเจนให้มันผลิตออกมาเองนั่นแหละครับ และมันยังสามารถสร้าง Image ของผิวหน้าเราให้เป็นแบบ Real time เพื่อให้แพทย์สามารถวิเคราะห์การ Ulthera ได้อย่างราบรื่น และที่ผมกล่าวมาทั้งหมด ไม่เกิดอันตรายต่อผิวหนังของเราเลย แต่ถ้าเราลองวิเคราะห์ไปอีกซักนิดทุกคนก็คงจะสงสัยกันใช่มั้ยครับว่า ทำไมมันถึงง่ายขนาดนี้ เอาจริง ๆ ผมขอบอกเลยครับว่ากว่าจะได้เทคโนโลยีนี้มามันไม่ง่ายหรอกครับ ซึ่งผมก็มีทฤษฎีต่าง ๆ มาให้ทุกคนวิเคราะห์กันครับว่าทำไม Ulthera มันถึงไม่ง่าย แล้วคุณจะได้รู้ถึงความมหัศจรรย์ของร่างกายของเราอีกด้วย
การส่งพลังงานไปยังชั้นผิวที่ลึกแบบเฉพาะเจาะจง
จากที่ผมบอกไปครับว่า Ulthera ใช้พลังงาน Ultrasound ในการทำงานเป็นหลัก เนื่องจากมันจะส่งความร้อนไปยังชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป โดยส่วนนั้นจะเรียกว่า SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นใต้ผิวหนังที่สำคัญในด้านการยกกระชับหน้า ชั้น SMAS มันจะทำหน้าที่เหมือนโครงสร้างค้ำจุน (scaffold) ให้กับผิวหนัง ซึ่งเมื่อ SMAS หย่อนคล้อยลง จะทำให้ผิวหนังบนใบหน้าดูหย่อนยาน โดยคลื่น Ultrasound จะกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในเนื้อเยื่อของ Dermis (ชั้นหนังแท้) และ SMAS ทำให้มันช่วยฟื้นฟูโครงสร้างของผิวในระดับที่ลึกลงไปด้วยพลังงานความร้อนของ Ultrasound นั่นเอง
แต่ก่อนจะไปยังทฤษฎีต่อไปผมขอขยายความในเรื่องของส่วนประกอบของเซลล์ผิวหนังในใบหน้าของเรานิดหน่อยครับ ตัวละครหลักมันจะมีอยู่ 3 ตัวด้วยกันคือ
- SMAS (ชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิว),
- Dermis (ชั้นหนังแท้) และ
- Epidermis (ชั้นผิวหนังนอก)
โดยการ Ulthera จะโฟกัสไปที่ SMAS เป็นหลัก ซึ่งชั้นที่ Ulthera โฟกัสมันจะไปกระชับโครงสร้างของผิวของใบหน้าของเรา ส่วน Dermis มันจะเป็นชั้นนอกของ SMAS เป็นชั้นที่มีเซลล์สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เมื่อคลื่ Ultrasound วิ่งผ่านจะทำให้เกิดการฟื้นฟูและยกกระชับใบหน้าของเาได้มากขึ้นอีก ส่วน Epidermis พลังงาน Ultrasound จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับผิวชั้นนี้เลย ทำให้ไม่เกิดบาดแผลภายนอกระหว่างที่ Ulthera ครับ
กระบวนการสร้างคอลลาเจนของใบหน้า
ก่อนหน้าที่จะค้นพบว่า Ulthera จะกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ใบหน้าเต่งตึงนั้น ก็ต้งมารู้กันก่อนว่าคอลลาเจนมันมีวิธีการสร้างอย่างไร คอลลาเจนมันจะเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักของผิวหนังที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น ซึ่งเมื่ออายุของเราเริ่มมากขึ้น ความกระชับใบหน้าของเราก็จะค่อย ๆ เสื่อมสลายไป การสร้างคอลลาเจนใหม่จะช่วยชดเชยการเสื่อมสลายนี้ให้กับเราโดยการที่ร่างกายของเราจะรับรู้ว่าบริเวณนั้นเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อย และส่งสัญญาณให้เซลล์ Fibroblasts (เซลล์ที่สร้างคอลลาเจน) ทำงาน ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้น Dermis และ SMAS และนี่ก็เป็นสาเหตุที่มีการค้นพบว่า Ultrasound มันตอบโจทย์เรื่องนี้ในการ Ulthera ที่แท้จริงครับ
Skin Aging
แน่นอนครับว่าของทุกสิ่งทุกอย่างล้วนค่อย ๆ สลายไปตามกาลเวลา ร่างกายของเราก็เช่นกันครับ เมื่อเราอายุมากขึ้น สิ่งที่มันจะกระทบใบหน้าของเราก็คือชั้นไขมันใต้ผิวหนังจะลดลง คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสลาย และการไหลเวียนโลหิตในผิวหนังลดลง กระบวนการพวกนี้เป็นผลมาจากการทำงานของเซลล์ในร่างกายที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรการ Ulthera มันจะมาช่วย Hack ชีวิตของคุณด้วยการใช้พลังงาน Ultrasound เพื่อฟื้นฟูการทำงานของเซลล์โดยกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมและเสริมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้ และช่วยยับยั้ง Skin Aging ได้เป็นอย่างดีเลย
Wound Healing
ถือเป็นผลข้างเคียงของการยับยั้ง Skin Aging ก็คือเมื่อ Ultrasound มันช่วยฟื้นฟูร่างกายของคุณแล้ว มันจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูธรรมชาติของร่างกายหรือก็คือ Wound Healing นั่นแหละครับ มันจะซ่อมแซมจุดที่ถูก Ultrasound กระตุ้นโดยระหว่างกระบวนการนี้ เซลล์และโปรตีนสำคัญ เช่น Growth Factors และ Cytokines จะถูกกระตุ้นให้ทำงาน ก็เหมือนกับการรักษาแผลทั่วไปเลยครับ
เทคโนโลยีสำหรับการ Ulthera
สุดท้ายสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ก็คือเทคโนโลยี การ Ulthera จะใช้ AI/ML ในการเทรนข้อมูลเพื่อหาสเปคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการ Ulthera ออกมา ซึ่งการเทรนจะต้องนำข้อมูลจำนวนมากเข้าสู่การ Data Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลออกมาให้แม่นยำ
จากที่ผมได้เขียนทฤษฎีการ Ulthera จะสังเกตได้เลยใช่มั้ยครับว่ามันจะเพ็งเล็งไปที่คอลลาเจนเป็นหลักให้มันกระตุ้นออกมาเองด้วยคลื่น Ultrasound แต่ถึงอย่างไรอย่าลืมนะครับ Ulthera จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่สำคัญจริง ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์สามารถบรรลุได้ ก่อนที่ Ulthera จะถูกใช้อย่างแพร่หลาย มีการทดสอบในห้องปฏิบัติการโดยใช้ Biological Models เช่น การเลียนแบบเนื้อเยื่อผิวหนังมนุษย์ เพื่อศึกษาโครงสร้างของผิวหนังและการตอบสนองต่อพลังงาน Ultrasound การวิเคราะห์ข้อมูลผิวหนังโดยใช้ Imaging และ Machine Learning ถือเป็นแก่นหลักในการคาดการณ์ผลลัพธ์และปรับปรุงประสิทธิภาพการรักษาเป็นอย่างดี ระบบนี้จะช่วยสร้างระบบจำลองที่ทำให้การพัฒนาเครื่องมือมีความแม่นยำยิ่งขึ้นสำหรับการ Ulthera รวมถึงต้องไม่มีการใช้สารเคมีหรือวัสดุแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายโดยเด็ดขาด
ขอขอบคุณ V Square Clinic : หัวข้อ Ulthera
แหล่งสืบค้นข้อมูล : https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/jocd.16658
https://www.tandfonline.com/doi/full/10.2147/CCID.S144282
https://link.springer.com/chapter/10.1007/978-3-031-69091-4_24