รูปแบบต่างๆ ของเงินและมูลค่าของเงิน

ความเชื่อ และการเปลี่ยนแปลงของ เงิน – เปลี่ยนรูปแบบธุรกรรม ตอนที่ 1.

คุณค่าของเงิน ไม่ใช่เรื่องการจับจ่ายใช้สอย หากคุณเป็นลงทุน และ เป็นผู้ศึกษาการทำธุรกิจ บทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับทำความเข้าใจ นิยามและบริบทของเงิน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเงินไปตามรูปแบบและยุคสมัย โดยมีผลกระทบมาจาก การเมือง และ การเปลี่ยนรูปแบบทางสังคม ความนิยม อีกทั้งความเชื่อในเรื่องของ คุณค่าของเงิน โดยเงินเป็นตัวกลางของการแลกเปลี่ยน มูลค่า ที่เรามีให้กับ มูลค่าของสิ่งหนึ่งที่เราได้รับมา การทำงานแลกเงิน กับการสร้างระบบและสร้างธุรกิจที่ทำเงินจึงแตกต่างกัน อยากให้ผู้ที่กำลังหาเงิน และแสวงหาโอกาส ให้มองบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความเชื่อเหล่านี้ จะได้ไม่วิ่งไปตามกับดัก ที่ทำให้เราออกห่างจาก คุณค่าที่สูงกว่าเงิน

การขุดหาเงิน

ในยุค ทุนนิยม (Capitalism) ในบทความนี้ จะยึดโยงไปที่ประเด็น เกี่ยวกับ Wage labour หรือ ค่าแรงงาน เป็นค่าจ้างจากการเซ็นสัญญา โดยนายจ้าง และ โดยทั่วไป ตลาดแรงงาน ที่มีค่าแรง เป็นตัวกำหนด ส่วนในทางปัจเจกของแต่ละบุคคล ในรูปแบบของ Marxist Economics ผู้ที่เป็นเจ้าของ ที่เป็น ปัจจัยการผลิต และ สินค้าของทุนเหล่านั้น เรียกว่า กลุ่มทุนนิยม และในหลักการนี้ได้อธิบายต่อว่า บทบาทของ นายทุน ได้เปลี่ยนบทบาทไป อันดับแรก ได้กล่าวถึง สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ หรือไม่มีคุณค่า ระหว่างผู้ผลิต และผู้จ้างให้ผลิต แรงงาน ได้รวมไปถึงทรัพยากรณ์ทางด้าน ร่างกายและ มันสมอง จิตใจ ของมนุษย์ รวมไปถึง ศักยภาพของ กิจการและ ทักษะการบริหาร ในส่วนที่เป็นกระบวนการผลิตและบริการ มันเลยเป็นที่มาของ กำลังแรงงาน

ที่กล่าวมาคร่าวๆ ทำให้เราพอทราบ scope ของค่าแรง และ แรงงาน ในฝั่ง การผลิต ตรงนี้เอง ที่จะยึดโยงไปในส่วนของ คุณค่าของเงิน และผมจะให้น้ำหนัก โดยยกตัวอย่างของ เงินในแต่ละประเภท รวมไปถึง เรื่องเงินเฟ้อ ในกระแสเศรษฐกิจ อีกทั้ง ทำให้คุณเริ่มเข้าใจ แนวทางของการหาเงิน จากกระบวนการแลกเปลี่ยน และ การเก็งกำไร อีกทั้ง ยังต่อยอดในเรื่องของ การลงทุนในหุ้น เราต้องอาศัยทักษะการเรียนรู้ จากหลักการที่มาเหล่านี้
ลักษณะของเงิน ประเภท Fiat และ Digital Money

ผมได้ขอกล่าวถึง เรื่องเงินในประเภทที่ Specific ลงไปอีกหน่อย นั่นคือ เงินในรูปแบบ Fiat หรือ รูปแบบเงิน เป็นเงิน ที่จัดตั้งโดย กฏหมาย (ลองศึกษาเกี่ยวกับ Legal Tender กับเรื่องระบบเงิน) หรือ รัฐบาล ซึ่งผมลองศึกษาประวัติศาสตร์ชาติจีนในสมัยราชวงศ์หยวน ระบบเงินตรา เฟียต นั้นคือเงินประเภท กระดาษ ซึ่ง มันก็คือ เงินตราที่ถูกกำหนดค่าเงินโดยรัฐบาล และเป็นเงินที่เราใช้ในปัจจุบัน ในสมัยราชวงศ์ ซ่ง มีการนำกระดาษมาทำเงิน เรียกว่า Jiaozi แต่ตอนนี้ มันคือ ติ่มซำนั่นเอง

ส่วนเรื่อง Legal Tender ที่เกี่ยวกับค่าของเงิน ในแต่ละประเทศ เช่นในอังกฤษ ช่วงปี 1971 มีการเปลี่ยนแปลงของธนบัตรใบละ 10 ชิวลิง แทนที่โดย เหรียญ 50 เพนนี่ อันนี้ ได้ความรู้มาจากร้านรับแลกเงินในอังกฤษ ก็คือ พวกเหรียญที่เป็น Decimal Coin อย่าง 5p จะเท่ากับ 10 shilling เป็นกลุ่มที่มีความแม่นยำ หรือนับเต็มจำนวนได้ง่าย ส่วนอีกกลุ่ม จะนับยาก ไม่แม่นยำ อย่างพวกเหรียญ 1/2p, 1p, 2p จะเท่ากับ 1.2d, 2.4d และ 4.8d ตามลำดับ พอลองศึกษาดู ก็พบว่านับยากจริงๆ

เงินกระดาษ นั้นมีความเสี่ยง นั่นจึงเป็นเหตุผล ที่ผม หันมาสนใจ เล่นหุ้น และ ศึกษาการทำ ธุรกิจอื่นๆ เพื่อขึ้นด้วย เคยได้ยินว่า ยิ่งถือเงินสด ยิ่งจน เพิ่งมารู้สึกเมื่อเรามาตั้งบริษัท ผมเห็นได้ชัดเจนเลยว่า เงินสดมันหมดคุณค่าไวมาก ยิ่งคนเป็นหนี้สิน จากระบบสินเชื่อ คนยิ่งไขว่คว้าหาเงินสด ด้วยวิธีต่างๆ แม้แต่การขายตัว ตามแหล่งสถานเริงรมณ์ ทำให้กระแสเงินสดสะพัดไปเรื่อย มันก็เกิดการ Re-Invest. การลงทุนผลิตซ้ำ เงินที่ตีค่าในกระดาษ (Note) ที่วิ่งไปตามกระแสเงินสด ในเวลาที่ผ่านพ้นไป เราจะพบว่า ราคาสินค้า อุปโภค บริโภค ก็ทวีคูณสูงขึ้น ยิ่งในประเทศไทย เงินทุนหมุนเวียน หมุนกลับไปสู่นายทุน และ กลุ่มพ่อค้าขนาดใหญ่ และ ตัด Margin ไปเรื่อยๆ ให้ผู้บริโภค ใช้สินค้าอย่างรวดเร็ว ด้วยโปรโมชั่น และ การกระตุ้นการตลาด ด้วยสื่อสิ่งบันเทิง ในทุกช่องทาง ยิ่งในสมัยนี้ เราเข้าถึงสื่อได้โดยง่าย

เงินเฟ้อ และ เงินเฟียต

ในยุคต่อมา คนเริ่มใช้เหรียญน้อยลงเมื่อมีการใช้กระดาษเข้ามาทำหน้าที่แทนเงิน และคนก็มีความเชื่อว่า กระดาษคือเงินแล้ว วิวัฒนาการเพื่อเปลี่ยนความเชื่อทางสังคมเพื่อให้มูลค่าแตกละอย่างมีกลไกของมัน ซึ่งผมมองว่ามันต้องมาจากสมาคมและการจัดตั้งของรัฐบาลในแต่ละรัฐ การใช้กระดาษมาแทนที่เงิน ยิ่งทำให้สภาพคล่องนั้นสูงขึ้น ประเทศแรกที่ผมไปหาเจอก็คือประเทศจีน อย่างที่กล่าวไว้ในย่อหน้าก่อนนี้ ส่วนเรื่องเงินเฟียต ที่เราถืออยู่ทุกวัน คุณเชื่อหรือไม่ว่า เป็นกระดาษที่โดนผูกความเชื่อต่อๆกันมา แล้วเราก็ยังแบกรับปัจจัยความผันผวนของค่าของมัน และเราเองนั่นแหละที่แบกเราการอ่อนตัวและค่าเงินเฟ้าในมูลค่าหน้าแบงค์นั่นเอง ส่วนทรัพยากรณ์ที่มนุษย์ใช้แทนการแลกเปลี่ยนในยุคโบราณได้แก่ทองคำ ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนในสมัยก่อน เราก็ถูกสร้างให้มีความเชื่อว่า ทองคำ คือสิ่งมีค่าในยุคโบราณ เพราะเป็นโลหะที่มีความอ่อนนุ่มบริสุทธิ์ มีใครเคยตั้งคำถามไหมว่า ทองคำ จะมีวันหมดไปจากโลกใบนี้หรือไม่ ? และอนาคตมันจะมีมูลค่าสูงขึ้นไปถึงไหน แล้วมันจะตกมาเหลือ ไม่กี่ดอลล่าห์หรือไม่ ยิ่งคิด ก็ยิ่งวิตก แต่นักลงทุนคงพยายามสร้างข่าวเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับทองคำ และประเทศมหาอำนาจต่างก็ สะสมทองคำไว้เป็นการการันตีความมั่นคงของประเทศ ทองคำ เก็บไว้ในคลัง

ในปัจจุบันอย่างเหมืองทองคำเอกชน เช่น กลุ่ม ABX เป็นกลุ่มสมาคมขุดทอง เป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ ของโลก ซึ่งกลุ่มประเทศที่ผูกขาดราคาทอง ที่ผมคิดถึงแรก ก็จะมี ออสเตรเลีย กับ รัสเซีย เนี่ยแหละ ส่วนจีนก็ไม่ใช่ย่อย มีแหล่งเหมืองแร่ทองคำจำนวนมาก พวกนี้ผูกขาดเหรียญทองคำแท้ โดยที่เรายังคงใช้เงินจาก มูลค่ากระดาษ ตีตราหน้าแบงค์ ผมมองว่าจุดนี้ เป็นปัจจัยเสี่ยว เพราะในแต่ละวัน หากคุณเอง เป็นผู้ศึกษา และ ลงทุนในหุ้น คุณจะรู้ความผันผวนของเศรษฐกิจและค่าของเงินอยู่แล้ว ส่วนใหญ่แล้ว กลุ่มที่เก็งกำไร ใน Forex ก็แทบจะต้องเล่นแบบ Day Trade กันเลยทีเดียว

เงิน Digital

ทีนี้เมื่อคุณเองได้แบกเอาเงินสดไว้ในกำมือและเต็มกระเป๋า เพื่อความสุขสบายกับการใช้จ่าย สิ่งต่อมาหากคุณตั้งข้อสังเกตหรือไหวตัวทัน คุณแทบจะไม่อยากถือเงินสดหรือมีเงินสดอยู่เต็มบัญชีธนาคารแน่ๆ เพราะในสังคมจริงๆ มีคนที่ผลิตเงินได้มากกว่าคุณอยู่จำนวนมาก พวกเขาต่างเอาเงินไปลงทุนสร้างระบบเล็กๆให้แก่ชีวิต และตอบแทนมาเป็นคุณค่าอะไรบางอย่างที่ให้ในอนาคต การมีเงิน ต้องเข้าใจเรื่องเวลา ถ้าคุณไม่เข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงไปของเวลา คุณไม่ควรจะมีเงินเลย และเชื่อว่าผู้อ่านหลายคน อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เงินกับเวลามันสัมพันธ์กันได้อย่างไร ซึ่งส่วนตัวผมเองก็รู้สึกเช่นนั้นสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น แต่พอถึงวัยเสื่อมโทรม เรากลับมามองว่ากำลังผลิตที่ได้จากระบบจริงๆ และเงินที่เราได้มาจากระบบต่างหาก คือสิ่งที่เราต้องการ เราจึงเริ่มใช้เงินทำงานแทนเรา แม้จะน้อยนิด ในปัจจุบัน คนในสังคม IT ที่เป็นโปรแกรมเมอร์ นอกจากจะแอบไปซื้อคอนโดในทำเลดีๆแล้ว พวกเขาเริ่มทำเหมืองขุดเงิน Digital ที่เรียกว่า BitCoin แต่ในบทความนี้ผมจะไม่กล่าวถึงมันมาก เพราะไม่อยากให้คนหลุดประเด็นว่าผมจะชวนไปเทรดค่าเงิน BitCoin หรือชวนไปซื้อ การ์ดจอเพื่อทำการขุดเหมือง BitCoin อะไรแบบนั้น

รูปแบบทางการเงิน ที่เสมือนว่าจับต้องไม่ได้ แต่มีหลายคน จับต้องออกมาจนเป็นทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลแล้ว เพราะตามเกมส์ทัน เงินในรูปแบบใหม่นี้กลายมาเป็น ปรากฏการณ์ทางสังคม จริงจังขึ้นมาแล้ว ก็คือเงินในคอมพิวเตอร์ หรือเงินในโลกออนไลน์ นั่นเอง เป็นเพราะ ยุคสังคมของ Internet ที่เพาะบ่มคนเราตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา แล้วเราเริ่มใช้ Internet ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ จวบจนมาในปีนี้ 2017 ก็ราวๆ 21 ปี วิวัฒนาการของสังคมได้ตอบรับ การเข้ามาของโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น เรื่องของ Internet มีหลายองค์กร พยายามสรรค์สร้างโลกนี้ให้เชื่อมต่อ เพื่อเกิดการ Trading ทั้ง Information และ Value ผ่านทางออนไลน์ ได้อย่ารวดเร็ว ประเทศไทย ก็โชคดีมากขึ้นเมื่อ 4G ทำงานได้ดีและราคาไม่แพงอย่างที่คิด
ส่วนในประเทศอเมริกา เนื่องจาก eSport นั้นเป็น emerging market หรือตลาดที่เกิดใหม่ โดยใน US. มีส่วนแบ่งตลาดของ แชร์อยู่ตั้ง 4% ของตลาด Video Game, DOTA 2 กลายเป็น eSport ที่ได้รับเงินสูงสุด เป็นรายบุคคล เป็นประวัติการ จำนวน 37 ล้านดอลล่าห์ สหรัฐ ในปี 2016

Flooz.com ซึ่งปัจจุบันได้ถูกระงับการใช้งานไปแล้ว (Defunct) จัดตั้งและเป็นเว็บออนไลน์ ในเมือง นิยอร์ค สหรัฐฯ ถูกโปรโมต โดยดาราหญิง ที่ชื่อว่า “Whoopi Goldberg” ที่เว็บนี้ ชื่อ Flooz เพราะว่า เอามาจากคำในภาษาอาราบิก (Fuloos) ที่มีความหมายว่า เงิน โดยเว็บนี้ ถูกใช้เป็นที่นิยมและแพร่หลาย ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้น ของการใช้เงินออนไลน์ ตั้งแต่ปี 1999 ย้อนไปเกือบจะ 20 ปีเลยทีเดียว ตอนนี้ผมเห็นว่า ระบบเงินออนไลน์ ที่โจมตีเงินหลักๆของระบบรัฐบาล ก็จะมีเงินสกุลหลักที่ชื่อว่า BitCoin และมันมีแนวโน้มเติบโตขึ้น อย่างไม่จบไม่สิ้น คาดเดาอนาคตของมันได้ยากมาก

ส่วนการใช้งานของ ระบบเงินออนไลน์ หรือ Digital Money ในสมัยก่อน ที่เราพบ case ตัวอย่างนี้ คือการนำไปแลกคะแนนสะสม ที่เราเรียกมันว่า ระบบ Redeem มันเป็นตัวกลางของการแลกเปลี่ยน มูลค่าอะไรบางอย่าง เช่นแลกเป็นสิ่งของได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน มันได้ถูกตรวจจับได้ว่า มันเป็นตัวกลาง ของกิจกรรมที่มีความเป็น อาชญากรรมทางการเงิน และเป็นอาชญากรรมทางการเงินออนไลน์ โดยองค์กร Federal Bureau of Investigation ได้ตีความว่าเป็น crime syndicate โดยใช้รูปแบบของการขโมยเลขที่บัตรเครดิต ซึ่งการกระทำนี้ เข้าข่ายการฟอกเงินเลยทีเดียว

ที่เล่ามาทั้งหมด อยากให้เข้าใจ ว่าเงิน มาจากความเชื่อล้วนๆ ความเชื่อในการแลกเปลี่ยน คุณค่าของกันและกัน สิ่งที่มีคุณค่ามากๆสำหรับเรา อาจไร้ค่าสำหรับคนอื่น สิ่งที่เราทำให้คนอื่น อาจมีค่ามากๆสำหรับเรา ฉนั้น การจะกระทำสิ่งใดๆให้คนอื่น ให้มองที่คุณค่าของตนเองเป็นหลัก และอย่าถูกเงินครอบงำ ตอนหน้า จะเน้น เนื้อหา ทางเทคนิค ทางด้านการเก็งกำไร และ การโอนเงินระหว่างประเทศ ในรูปแบบร้านแลกเงิน  ที่ทำไม เขามีธุรกิจคู่ขนานที่ทำเงินได้เป็นวินาที และรูปแบบ ธุรกรรมของบัตรเครดิต และ นวตกรรมต่างๆ ของเรื่องเงิน มา ณ โอกาสหน้าครับ

เงิน – ร่ำรวย – Value ซ่อนอยู่ตรงไหน ?

ทองคำ มีซ่อนอยู่ในทุกที่ มันคือ ส่วนผสมของ โอกาส และ Time

หลายคน โครตรีบเร่ง, แต่ก็ไปไม่ถึงไหน เพราะ เราเร่งตาม Trend. บทความนี้ ได้แรงบันดาลใจ การแง่คิด และ นำไปปฏิบัติจริงจังมาสักระยะหนึ่ง เราได้มองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ ใน เวลา และ โอกาส ผลงานเขียนชิ้นนี้ ค่อนข้าง Abstract. คนที่มีประสบการณ์ คล้ายๆผม จะรู้ได้เลย ว่าสิ่งที่ผมพูดถึง ตรงนี้ หมายถึงอะไร.

เปลี่ยนไร่มัน ให้เป็น เหมืองทองคำ

ขุดมันฝรั่ง แต่พบว่า ไร่มันฝรั่ง ที่เราขุด กลายเป็น เหมืองแร่ทองคำ

ประสบการณ์ องค์ความรู้บางอย่าง เป็นเรื่องยาก ที่คนทั่วไปจะเข้าใจ, ธรรมชาติ สร้างให้ คนประหลาด ได้รับ สิ่งประหลาด และได้เข้าถึง อะไรที่ประหลาด
Outputs ประหลาดๆ ออกมาจาก การกระทำ ที่เฉพาะตัว ผิดแผลกออกไปจากกระแสหลัก เมื่อชนะแรงต้าน และเห็นปัจจัย ที่เป็น อนุภาคเล็กๆ ระดับ เมล็ดทราย

เขาผู้นั้น ย่อมได้รับ รางวัลจากธรรมชาติ

 

 

ทองคำ ซ่อนอยู่ในหัวมันฝรั่ง (Gold in the Potatoes)

ไม่มีใครรู้เลยว่า เราแอบขุดเหมืองแร่ทองคำ ในขณะที่คนอื่น ยังไปร่อนเมล็ดทราย ในต้นแม่น้ำ ด้วยความเชื่อ ที่โดนหลอกๆ ต่อๆกันมา

คนหลอก ก็จะเก็บค่าวิชา ไปเรื่อยๆ
ท่านว่าจริงไหม ? เคยสัมผัสไหม วงการ เรื่องการเงิน    — ทำไม ? นักลงทุนจอมปลอม ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ จึงมักมีชื่อเสียง พอๆกับตัวจริง ??

Trick ที่ โครตง่าย พวกเขารู้ว่า มีคนโง่ ในระบบ ธรรมชาติ 95% และมีคนรู้ทันเพียง 5%
จึงเป็นที่มาว่า ทำไม โลกเรา ไม่เท่าเทียม — เนื่องด้วย เราอยู่ในข้อจำกัดของคำว่า เวลา และ โอกาส
สิ่งที่มนุษย์ ขาดแคลน คือ เวลา และ โอกาส

โอกาสต่างๆ เช่น โอกาส การเข้าถึงปัจจัยการผลิตต่างๆ ในสมัย การปฏิวัติ อุตสาหกรรม
หรือ โอกาส ในการเข้าถึง กระบวนการ การศึกษา ที่มีคุณภาพ
โอกาส ในการ รับการเลี้ยงดูที่ดี จากสถาบันครอบครัว
โอกาส ในการได้รับ สวัสดิการ ทางสังคม และ ทางรัฐ ตาม สิทธิพื้นฐานของพลเมือง

โอกาสเหล่านี้ มาจาก ปัจจัย ทรัพยากรณ์ ที่เรียกว่า “เวลา”

อะไรหล่ะ แปรรูป ให้เกิด เวลา และ โอกาส

มันคือ การต่อรองที่ดีกว่า (Better Offer & Power Of Negotiation)
การต่อรองที่ดีกว่า มาจากรากเหง้า ของวัฒนธรรมชนเผ่า ที่มีมาจากรากเดิมโบราณ ที่สืบสานมาต่อเนื่อง ยาวนาน นับเป็น พันปี
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า เฮอริเทจต์ ผมอาจจะสดผิดเลยขอเขียน ไทยปนอังกฤษ เป็นไทย ให้ดู ศิวิไลมังค่า ไปบ้าง ไม่ว่ากันนะครับ

ทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดของมนุษย์ คือ ประสบการณ์ (Experiences)
เมื่อเราขาดประสบการณ์ สิ่งที่ตามมาคือ ขาดอำนาจต่อรอง และ ทักษะการแปรรูปทางทรัพยากรณ์

เราจึงเห็น การแย่งชิง ฆ่าฟัน การรบ และ ปัญหาทางสังคมตามมา
คน กับ ลิง คล้ายๆกัน

 

ต่อมา เมื่อเรามองเห็น โอกาส จึงทำให้มันเป็นความลับ โดยเฉพาะ เมื่อเราค้นพบ เหมืองแร่ ที่ซ่อนอยู่ในไร่มันฝรั่ง

มันฝรั่ง

นี่จึงเป็นที่มาของบทความนี้ครับ ขอให้อ่านเพลินๆ เป็นนิทาน เพราะ รายละเอียด มันคือ ความลับ ไม่สามารถเผยแพร่ได้

การอยากล่วงรู้ความลับ ผมอยากได้ คนที่อ่าน บทความนี้ จำนวน 10,000 คน แล้ว มี หลงๆ วนเข้ามา พบผมโดยบังเอิญ

ตามรอย เรื่อง งานเขียน ที่ผมซ่อนอยู่ในบลีอกแห่งนี้ ผมคัดกรอง คนที่มีประสบการณ์ คล้ายๆกัน เพื่อเปิด Deal ลับๆ ที่เรา เข้าใจกัน

 

ผมไม่เคยเก็บเงินค่าสัมมนา อยากให้ Channel เล็กๆ ที่เรียกว่า Transaction ลับๆ ที่กำลังจะทำเงิน มหาศาล ใน 5 ปีนี้ ค่อยๆเป็นไป

ผมเข้าใจดีกว่า เมื่อเจอ เหมืองแร่ ทองคำดีๆ จากสวนมันฝรั่ง ขุดไปเรื่อยๆ สักวันนึง มันจึงหมดไป

 

ทำอย่างไรหล่ะ ?? ก็ ดีลตรง กับคนที่มี ไร่มันฝรั่ง สิครับ

แล้ว ค่อยๆ ตรวจสอบ ว่าเขานั้น มี Criteria เหมือนกันไหม ?

ใช้อะไรหล่ะครับ ?

 

ก็การทำงานร่วมกันไง

จึงเป็นเรื่อง ของ เวลา และ อำนาจต่อรอง

 

การ ต่อรอง ทางการฑูตในรัฐ ต่อ รัฐ ใช้ การฑูต คือ Deal ลับๆ ทาง Bank คือ Compliance ระดับ 5 ซึ่ง มากกว่า Top Secret!

อย่าให้ เจ้าของ ไร่มันฝรั่งรู้ว่าเขามีเหมืองแร่ทองคำซ่อนอยู่

สิ่งที่เราต้องทำต่อมาคือ นำปัจจัยการผลิต เข้าไป แทรกซึม ใน ไร่มันฝรั่ง

แล้ว Propaganda.

เมื่อกระแสมา ให้รีบกวาด แล้ว ทำ Multiple Deals.

 

 

ต่อไปแผนสองหล่ะ ทำอย่างไร ?

นายทุนสิครับ หามาถือ

อย่าไปขาย Sharing แค่ Share

แล้ว ปล่อยให้ Operation RUN….

 

แห่ไปปลูกมันฝรั่ง โดยเชื่อว่ามันจะมีทองคำพวกมองหยาบๆ ตอนนี้ มันไปลงทุนอีกฝั่ง แม่งแห่กันไปปลูกและสร้าง ไร่มันฝรั่ง

ปลูกมันฝรั่ง ทั่วภูมิภาค – ด้วยความฝันที่ว่า ปลูกมันฝรั่ง แล้วจะกลายเป็นเหมืองแร่ทองคำ

โลกแห่งความจริง ไร่มันฝรั่ง กับแร่ทองคำ ไม่ได้เกี่ยวกันเลย

สิ่งที่ relate กัน คือ เมล็ดทราย และ สารประกอบชนิดหนึ่ง มักมาเจือปน หรือปนเปื้น ในดิน ที่ปลูกไร่มันฝรั่งในแบบที่เราเคยพบ

เทคนิคนี้ เมืองนอก ใช้ข่าวลือกระตุ้น แล้วเอาปัจจัยมากวาดกลับไป เขาจะมาดีล เรื่อง ไร่มันฝรั่ง ก็คล้ายๆ กับ ฟาร์มโซล่าเซล์

ความสำเร็จ ไม่ใช่ การทำฟาร์มโซล่าเซล์แล้วจะได้เงิน สมการคือ Process ที่ Efficiency ในจุดที่ผ่านแรต้านของต้นทุนและความเสี่ยงของ Weather แล้วจะทำให้ Area นั้น ทำกำไร.

คนหมดเงิน หมดตัว เพราะแห่ไปทำฟาร์มโซล่าเซล์

คนรวยจริงๆ คือ คนขายปัจจัย และ Re-Invest ใน Area ที่ปลอดภัย, ข่าวลือความสำเร็จ มักไปไวแล้วไปก่อนอยู่แล้ว แต่ ข่าวที่เป็นจริงเรื่องว่า ไร่มันฝรั่งทุกไร่ ไม่มีทองคำ มักไม่ถูกพูดกล่าวถึงครับ

อันนี้ไม่ได้ โจมตีเรื่องธุรกิจ โซล่าเซล์นะครับ ยกตัวอย่างมาจากเมืองนอก ในเมืองไทย นิยมทำกัน และแดด ดีมาก ไม่มีปัญหา แนะนำให้ทำต่อๆไปครับ

และผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจ โซล่าเซล์ครับ นิทานเรื่องนี้ เปรียบเปรย เกี่ยวกับ channel ที่เกิดขึ้นแบบวินาที ที่ผมพยายามจะหมายถึง ความลับคือ ทุกๆ millisecond มี transaction จำนวนมากๆ เกิดขึ้น นั่นแหละ time. และโอกาส เราดัก 0.001% ของ ทุกๆ Millisecond ในนั้นได้ ด้วยตาข่ายเล็กๆ ได้หยดน้ำของ value มาก้สบายแล้วครับ ไม่ต้องคิดใหญ่ หัดคิดเล็กๆ แต่เวลาใครถาม ให้หลอกพวกเขาในหน้าข่าว และสื่อว่า “ทำสิ่งใด ต้องคิดใหญ่ๆ” 

 

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

  • เวลาทำจริง คิดให้เล็กที่สุด
  • เวลาออกสื่อ ให้บอกว่า คิดให้ใหญ่

หลอกคน 95% หลงทางไปทำอีกแบบ แล้วคุณมาทำอะไรเล็กๆ กินในสิ่งที่เขาไม่ได้ให้คุณค่า 

 

โลกแม่งย้อนแย้ง และ ตลกไหมครับ – คิดใหญ่ๆ ใครคล้อยตาม ก็ตกเหว แล้วฟุ้งซ่าน แห้งเหี่ยวตายกันไปหมด

การออกสื่อ ของคนรักษาความลับ ให้เราพูดออกไปอีกด้าน ไปคนละทิศไปไกลๆเลย

ไอ้พวก 95% มันจะได้เป็น Observer ให้เรา แล้วเราก็ทำการ Detect มูลค่า ที่ซ่อนอยู่ จาก หน้า Monitor ของเรา…

 

ตกลง เราต้องการ ไร่มันฝรั่งหรือเปล่า ???

 

คำตอบ คือ ไม่ใช่

 

เราต้องการอะไรจากไร่มันฝรั่งเหล่านั้น

คำตอบคือ

ในดินเหล่านั้น ซ่อน ปัจจัย ของ สินแร่ทองคำหรือเปล่า ?

 

กระบวนการทั้งหมดนี้ รู้แค่ คน 1 คน

เจ้าของ ไร่มันฝรั่ง และ นายทุน ทั้งหมด ไม่รู้อะไรทั้งหมด

ไม่รู้ว่า เมล็ดทรายเล็กๆ ชนิดหนึ่ง ที่เรา บังเอิญไปค้นพบ คืออะไร ?

การ ดีลแบบลับๆนายทุน และ เจ้าของไร่มันฝรั่ง ต่างเอาด้วย ในไพ่ที่เราเปิด

แชร์ผลประโยชน์ ให้พวกเขา แล้วคุมตลาดให้อยู่

 

กระแส คือ ความเชื่อ ได้ก่อขึ้นแล้ว

คนบ้า + โง่ 95% ในโลกนี้ ได้บ้าบอ ปลูกไร่มันฝรั่ง แต่ทุกที่นา เพราะเขาเชื่อว่า มันมีเหมืองแร่จริงๆ

 

โลกใบนี้ ไม่ยุติธรรม กับคน 95% ที่เดินตาม Trend.

 

เวลา และ โอกาส คือ อำนาจต่อรอง

อำนาจต่อรอง อยู่กับเราเรื่อยๆ เมื่อมันเป็น Compliance ระดับ 5

 

 

สิ่งที่ต้องระวังขั้นสุดท้าย

แอบมอง

มักมีคนอีก 5 % แอบมองคุณอยู่ 

รักษา อำนาจต่อรองให้ดีๆ

 

สำหรับ คนทำงาน Bank ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน อาจได้ฟังว่า Compliance มี 4 ระดับ 
โลกอีกใบหนึ่ง มันอาจมี ไปถึง 13 ระดับ 

และ โลกใบนี้ มีความลับอีกมากมายหลายระดับ ที่ชนชั้นธรรมดาอย่างเราไม่รู้ ต้องเดาๆกันเอง

การเก็งกำไร (Speculation) แตกต่างจาก การลงทุน (Investment) อย่างไร

ช่วงนี้ต้องมารับงานใหญ่ สำหรับ จัดแจงจัดการ เรื่อง การแลกเงินตราในต่างประเทศ และ พยายาม นำหนังสือที่เป็น ระดับตำนาน – ชื่อว่า “The Intelligent Investor” ซึ่งผมนำมาอ่านส่วนตัว ตั้งแต่ปี 2015 แล้ว และติดตาม การลงทุนในหุ้น สาย VI

ในหนังสือ ก็มีคำว่า “Speculation” เขียนอยู่ในนั้น ตำรานี้ทรงคุณค่า และทำให้เราเข้าใจเรื่อง Value และ Time ว่ามัน สัมพันธ์กันอย่างไร และ อะไร คือปัจจัย การทำ กำไร (Profit) ในเรื่องของการ “ลงทุน”

สำหรับบทความนี้ จะเขียน ในบริบทของ Speculation เพื่อทำความเข้าใจ เรื่องของ การเก็งกำไร และ ที่ผมได้รับโอกาสพิเศษ สำหรับงานใหญ่ ซึ่งเป็นโปรเจคใหญ่ ระดับโลกเลย เพื่อนผู้อ่าน จะเห็นว่าทำทำงานของการ Trade เงิน และ Margin ของการ trade เงิน เมื่อคุณเข้าใจในมิติ ของเวลา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ของเรื่องการทำเงิน ในศาสตร์ของ Forex.

ผมได้เรียนรู้ เรื่องของ Currency Trading ซึ่งเป็น Basic สำคัญ ที่ทำให้พื้นฐานเราแน่นขึ้น และ มีสติขึ้นเมื่อนำแนวคิดนี้ มาใช้ในการลงทุนในหุ้นสาย VI เมื่องานเขียนนี้ได้เผยแพร่ออกไป ก็อยากให้ เพื่อนๆ ได้มีโอกาสติดตาม ในระยะยาวครับ

ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องการเล่นหุ้น และ ไม่เคยอ่านข่าวหุ้น หรือติดตาม Fanpage ที่ดังๆ ในโลก โซเชี่ยว เพราะผมรู้ว่า อาการ “ตกเป็นเหยื่อ” หรือ การเป็น “แมงเม่า” ก็คือ การติดตามแหล่งข่าว ที่ปั้นข่าว หรือการ Follow ตาม Trend หรือ เอา Bias ของผู้เขียน ที่เราไม่เคยเห็นหน้า ค่าตา มาก่อน เอามาเป็นตัวตัดสินใจในการลงทุนให้หุ้น ซึ่ง “มืออาชีพ” เขาไม่ทำกัน

เอาเป็นว่า บทความนี้ จะเว้นเรื่องการเล่นหุ้นเพียงเท่านี้ก่อน ขอเข้าไปเรื่อง Speculation และ Definition ของมันกันครับ

Speculation คืออะไร ?

อันนี้ ได้อ้างอิงมาจากหลายๆแหล่ง จากต่างประเทศ ซึ่งเว็บดังๆ อย่าง “investopedia” ได้กล่าวถึงเรื่อง “Speculation” อย่างระเอียดและเข้าใจได้ง่าย ดังนี้

Speculation คือ การกระทำใดๆ ของการ แลกเปลี่ยน ในทรัพย์สิน หรือทำให้ การธุรกรรมการโอนทางการเงิน (Financial Transaction) ให้เกิดความเสี่ยงสูงอย่างมีนัยยะ !! (จำคำนี้ไว้นะครับ — บทความหน้าๆ จะเข้า เทคนิค ระดับ Advance เกี่ยวกับเรื่อง ความเสี่ยงอย่างมีนัยยะ ตัวนี้แหละ คือการทำกำไร อย่างมหาศาล ถ้าเข้าใจมัน และจับจังหวะได้) หมายถึง การเข้าหาความเสี่ยงสูงสุด เพื่อคาดหวัง ในการทำกำไร

เสี่ยงสูง เพื่อกำไร ?

คือการหา Momentum ของการได้กลับมาอย่างมหาศาล พูดง่ายๆ คือหาจังหวะ peak สูงๆ ของการขึ้นของ Value ในขณะนั้นๆ
สังเกตไหมครับ เมื่อมัน ขึ้นสูงแล้ว ข่าวลือจะตามมาทีหลัง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ผมจึงไม่ตามข่าวหุ้น เพราะเมื่อเปิด Internet และเจอพวก นี้ เล่น trend เล่นกระแส แล้วคุณดันไปอ่านมันเข้า นั่นมหายถึง คุณได้ตกเป็นเหยื่อพวกเขาแล้ว

อย่าอ่านครับ ค้นคว้าเอง แล้วเก็บเป็นความลับเอาไว้
ส่วน ความแตกต่างระหว่าง การลงทุน และ การเก็งกำไร ที่จะแปลจากบทวิเคราะห์ จาก Guru หลายๆแหล่งที่เชื่อถือได้ เป็นเรื่องของ ปัจจัยต่างๆ และ ธรรมชาติของ ทรัพย์สินนั้นๆ (น่าสนใจมาก) ตอนนี้ ผมได้ รับโครงการเกี่ยวกับ มูลค่าตัวเลข ลอยๆ ในการทำ Transaction แบบ วินาที แล้วคุณลองหลับตาหรือจินตนาการว่า มีคนจำนวน 3 แสนคนกำลัง trading อยู่ทุกๆวัน โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่า เขากำลังทำกำไรให้ใครอยู่ ซึ่งพวก บัตรเครดิต และ กลุ่ม Banking ก็ใช้หลักการนี้ทำเงินเหมือนๆกันครับ

หากคุณไม่ได้มีโอกาส เปิดธนาคาร หรือไม่ได้เป็นเจ้าของ ธนาคาร ก็ยังมีโอกาสสร้าง คำว่า Transaction ในการทำกำไรอยู่ จะมาเขียนบอกกันในนี้ครับ ว่ามันทำงานอย่างไร และขอบอกก่อนว่าไม่ใช่เรื่อง BitCoin หรือ Cryptocurrency นะครับ วางใจได้ เพราะทางผมเอง ไม่ได้ขุดเหมือง หรือจะชวนใครมาแชร์ค่า server มาขุดเหมือง ทำเงิน หรือแม้แต่จะคิดถึงเรื่อง เงินที่ไม่มีธนาคารรองรับ

ในมุมมองผม เล่น สิ่งที่มัน แปรธาตุ ไปเป็น Physical บนดิน ได้ง่าย มักจะทำกำไรได้ง่ายกว่า
ส่วนใครที่ เข้าใจเรื่อง การ trading ใต้ดิน ก็จะเข้าไปจับ Crypto-currency มากกว่า

เอาเป็นว่า สมองคุณ เห็นอะไร ชัด ก้ไปจับแบบนั้นนะครับ ทางผม ไม่เข้าไปออกความเห็น หรือไปชี้นำในการตัดสินใจ

สิ่งที่ผมสนใจที่สุดคือ

  • Time of Holding the High Risk – ระยะการถือครองความเสี่ยง
  • Amount of Leverage – จำนวนหรือ Size ของความเสี่ยงที่เราถือ

เนี่ยแหละ Area ของความเสี่ยง และ โอกาส ทวีคุณของการ ผลิตผลกำไร

การปลูกมะม่วง เรารอเก็บเกี่ยว ออกดอกออกผล
เช่นกัน แหล่งที่มาของกำไร มักจะมาจากทำเล และ เวลา และจังหวะครับ

ไม่มีอะไรยากเลย แค่อย่าไปหลงทาง และระวัง Bias หรือ ข่าวลือต่างๆ
เพราะมัน ไม่ได้เรื่อง และ ทำให้คุณ ขาดทุน

ต่อมา ตีแตก คำว่า “เก็งกำไร”

ที่ผมเห็นใน Investopedia ได้เสนอแนวคิดอย่างเช่น – Real Estate คือ พื้นที่ของเส้นแบ่ง ระหว่างคำว่า ลงทุน และ เก็งกำไร ที่ไม่ชัดเจน การซื้อ สินทรัพย์อสังหา โดยมีแนวคิดที่ว่าจะปล่อยเช่าแบบเสือนอนกิน อาจจะถูกนิยามในเชิงการลงทุนครับ ส่วนการซื้อคอนโดหลายๆห้องพร้อมๆกัน ด้วยจำนวนของ เงินดาวน์ จำนวนเล็กๆ เพื่อประโยชน์ของการ ขายซ้ำ (Reselling) พวกคอนโดเหล่านั้น อย่างรวดเร็ว เพื่อผลกำไร แบบเท่าตัว อาจจะมองว่าเป็นการ เก็งกำไร เรื่องของการเก็งกำไร สามารถแสดงออกถึงความคล่องตัวในตลาด คุณเองก็เริ่มเข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่า การเก็งกำไรแบบ Speculation คือการขายสั้นๆ ในขณะที่ราคามันแกว่งตัวสูง,

นั่นแหละ เลยเป็นที่มาของการจับจังหวะ ในการ trading ต่างๆครับ
อีกเรื่อง เวลาอยู่ในสนามรบจริงๆ นักลงทุน ต่างแบ่งรับแบ่งสู้ ทั้ง เก็งกำไร ทั้งลงทุน ไปพร้อมๆกันครับ
เช่น ซื้อ คอนโดมาจำนวนมากๆ ปล่อยเช่า หลายๆแห่ง แล้ว อันไหนปล่อยขายได้ก็ปล่อยขายเลย

ในฐานะที่เคยเป็นพนักงานประจำ เคยเป็น พี่ๆ Senior ที่เงินเดือนน้อยๆ แต่ทำเงินหลักห้าหกแสนได้ชิวๆ เขามี คอนโด และ หนี้ อยู่ พร้อมๆกัน แล้วเก็บคอนโดไปเรื่อยๆ ช่วงสองปีแรกไม่มีกำไร มีแต่หนี้ แต่เขารู้ว่าราคาจะไป ทำเลมันมา ทิศทางลมมาก็กางใบเรือครับ

แล่นเรือตามลม เรือเปล่าๆ ช้อนปลาโตๆได้มากมาย

แต่ของผม เน้น ปริมาณ transaction จำนวนมากๆ ก็ต้องเน้นดูเรื่อง การ Trade ค่าเงิน และ การไหลเวียนของเงินลงทุน และ เข้าใจจังหวะ Big Sale ว่าทิศทางไปทางไหน ถ้าเราดัก กระแสน้ำถูก เราไม่ต้องไปกางเรือใบครับ เราแค่ ทำท่อ และ วัดระดับ Rate ความแรงของกระแสน้ำ ที่สัมพันธ์กัน

เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมครับ ? โปรด ติดตาม ตอนหน้าครับ 😀

Currency Trading คืออะไร ?

คำนิยามของ “Currency Trading” ภาษาไทยว่า การซื้อขายค่าเงิน ซึ่งอาจมีความหมายที่แตกต่างกันไป ทาง XE ที่ผมเรียบเรียงมา เขามี Guide Basic เกี่ยวกับการทุ่นแรง ทุ่นเวลา และ ประหยัดต้นทุน จากการจ่ายเงิน หรือ โอนเงินตราระหว่างประเทศ
และการค้นหาช่องทางการส่งเงินที่ปลอดภัย โดยให้ไปดูที่ XE Money Transfer

ผมได้มีความสนใจเรื่องการ Trade ค่าเงิน และ ศึกษาดู กราฟ Forex แต่ยังคงไม่เข้าไปเล่นเต็มตัวครับ เพราะตอนนี้ เน้นศึกษาการลงทุนสาย VI ในหุ้น SET500 อยู่ ผมซื้อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล และ สนใจเรื่องการลงทุนที่ให้ Return ในระยะยาวกว่า เพราะโดยส่วนตัว ยังคงทำเงินสด และไม่อยากเอาเงินสดไปเ็งกำไร เนื่องจากความที่ยัง ไม่เชี่ยวชาญในเรื่อง Day Trade ทำให้เรามีข้อจำกัด และต้องมีสติ ระมัดระวัง เรื่องการลุงทุนในเรื่องเงินให้มากๆ ผมมีแนวคิดว่าจะไม่ เล่นหุ้น หรือเก็งเงินในแบบ การพนัน เพราะมองแล้ว มีแต่ความเสี่ยง การลุงทุนที่สมเหตุผล คือการลงทุนโดยใช้พื้นฐานของการขจัดความเสี่ยง และ อยู่ในความเสี่ยงที่เราสามารถแบกรับได้ ผมจึงเริ่มต้นศึกษา เรื่องการลงทุน และเก็งกำไร จากค่าเงิน ในบล๊อกแห่งนี้ เพื่อนำมาแชร์และเผยแพร่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำเงิน ให้แก่ เพื่อนๆ ใน Internet ครับ

บทความที่ผมแปลและเรียบเรียงมา จากบทความแหล่งต่างๆ เพื่ออธิบาย เรื่องของ การ ซื้อขายค่าเงิน ที่เรียกว่า Foreign Exchange หรือ เรามักคุ้นเคยกับคำว่า “Forex” เป็นตลาดค่าเงินครับ และการทำเงิน จากการค้าขายค่าเงิน ในตอนสมัยเด็กๆ มีเพื่อนมัธยม เป็นลูกเจ้าของกิจการใหญ่โต พวกเขา ต่างทำกำไรจากการ เก็งค่าเงิน เยน ซึ่งสมัยนั้น ในไทย คนใหญ่คนโต นิยม เก็งค่าเงินตัวนี้ครับ แต่สมัยนี้มันเริ่มนิ่งๆ ละ มีหวือหวาแบบแต่ก่อน

เราเรียกการเก็งค่าเงินในตลาดนี้ว่า “Speculative Forex Trading” แต่บทความนี้ผมขอเขียนแบบกลางๆ ในเชิงเนื้อหาข้อเท็จจริง ไม่ขอพูดเรื่อง แหล่งบริการนะครับ อยากให้เพื่อนๆ ที่สนใจ ไปมองหากันเอาเอง เพราะ ผมไม่ใช่ เอเย่น trade เงินครับ อยากให้เขียนเป็นความรู้สำหรับนักลงทุน ที่กำลังศึกษา และอยากให้ตระหนัก ถึงผลเสียก่อนมองถึงผลดีครับ

เพราะคนสูญเสีย ในตลาดนี้ มีมากกว่าคนได้ครับ
คร่าวๆ ในอัตตรา 1/999 ครับ ใครได้กำไร คือ คุณคือผู้ถูกเลือกจาก ธรรมชาติครับ

 

ดูบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด : Economics

เนื้อหาแหล่งที่มาจาก
http://www.xe.com/currencytrading/