รูเรต (Roulette) ตำนาน การพนัน ที่มี ที่มาจาก วิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์ คุ้นหู นามว่า ปาสคาล

ในตำรา Geometry ที่เรียนกันในต่างประเทศ ก็มีคำว่า Roulette ที่เป็น เส้น “Curve”

 

Roulette เป็นชื่อ ที่มาจากภาษา ฝรั่งเศส หากหาความหมายตรงตัว ภาษาอังกฤษ จะหมายถึง “little wheel” ล้อเล็กๆ เป็นเกมส์ การพนัน ที่ใช้เล่นใน Casino   — ซึ่งบทความนี้ จะนำความน่าสนใจ ในเกมส์นี้มากกว่า การพนันเท่านั้น เพราะอยาก อธิบายที่มาที่ไป เพื่อให้ ประชาชนได้รับทราบ ว่ามันมี วิทยาศาสตร์แฝงอยู่ข้างใน

 

เกมส์ Roulette นั้น ผู้เล่น สามารถเลือก ตำแหน่ง ที่ละแทงเสี่ยง (Bets) โดยการแทงแต่ละครั้งรอบเกมส์ ผู้เล่นสามารถ ลงเลขได้หลายตำแหน่ง (บ้านเรา คล้ายๆกับการแทงหวย) เรื่องของ กฎเกณฑ์ จะยาก ที่จะเข้าใจเสียหน่อย แต่คุณจะพบว่า หากเข้าใจมันแล้ว มันจะเป็นเกมส์ที่สนุกมาก (เราไม่ได้สนับสนุนให้เล่นการพนัน) เราอยากให้คุณ มาเรียนรู้ในแนวทาง วิยาศาสตร์ และ เรื่องเลขา คณิตกันดีกว่า

เริ่มจาก การ ทายเสี่ยง แต่ละครั้ง สามารถ (“Bet”) ได้ดังต่อไปนี้

  1. การแทงเสี่ยง ตัวเลข ที่คาดว่าจะออก
  2. การแทงเสี่ยง เป็นกลุ่มตัวเลข ที่คาดว่าจะออก (เช่น เดาในใจว่า เลข 28,29,30,31,32 น่าจะออกตานี้) ก็จะมีวิธีการแทงแบบกลุ่มเหมือนกัน
  3. การแทง ว่า สีใดจะออก ซึ่ง มักจะมีสี แดง และ ดำ ให้เลือกแทง
  4. การแทงเสี่ยง ว่า เลขคู่ หรือ เลขคี่ จะออก
  5. การแทงเสี่ยง ว่า เลข บน (High 19-36) หรือ เลขล่าง (Low 1-18) ว่า บน หรือ ล่าง จะออก

 

เห็นไหมว่า พอเข้าใจ การแทง 5 แนวทาง คุณจะพบแล้วว่า กฏไม่ยากเลย

แต่อย่าลืม ในเกมส์ รูเรต มีเลข 0 ซึ่งเป็น สีเขียว อยู่ด้วย *** คุณคงเข้าใจว่า โอกาส ออก 0 มันก็มีเหมือนกัน *** พอไปลงเล่นจริง การได้เงิน หรือ กำไร กลับมา ทำได้ไม่ง่ายเลย

 

ใน Casino เขาจะเรียกคนที่หมุน ลูกทรงกลม โดยคนนี้ เราจะเรียกว่า “croupier”

คนที่เห็นในภาพ จะทำการ หมุนวงล้อ (Wheel) ก่อน ตามที่เห็นในภาพ

โดยเขาจะหมุนไปทิศทางใด ทิศทางหนึ่ง หรือจะเปลี่ยนทิศทางก็ได้ และ ความเร็วในแต่ละ ตาการเล่น จะใส่แรงไม่เหมือนกัน หากคุณ เป็น เซียนนักพนัน คุณต้อง คำนวณแรง และ การหมุนพวกนี้อย่างพิถีพิถัน เพื่อโอกาส ที่แต้ม score จะออกมาใกล้เคียง หรือ ใช่ (WIN) กับที่เรา Bet เอาไว้ โดยใน THAISINGAPORE ที่แนะนำ แหล่งฝึกสอน ผู้ที่สนใจ เรื่อง รูเรต โดยเฉพาะ แต่จะเผยแพร่ในวงแคบๆ เพื่อการทำกำไร และ โอกาสชนะเกมส์ ที่สูงขึ้น

 

ลืมบอก ! แต่ละตา บอล กับ จานหมุน จะไปคนละทางกัน

ในกฎของการเล่น Roulette, คนที่เป็น “croupier” หลักจากนี้ บทความนี้ขอใช้คำว่า “Dealer” ซึ่งคนไทยจะคุ้นชินมากกว่า เป็นความหมายที่เราเข้าใจกัน เช่นเดียวกับ ‘เจ้ามือ” “นายแบงค์” “Banker” ตามแต่จะเรียก ที่นี้ เราขอเรียกว่า “Banker”

 

ลูกบอล Roulette – จะถูก “Dealer” ทำการหมุน ไปในทิศทางตรงกันข้าม กับ การหมุนของจานหมุน

เราจะได้ยิน เสียง “แกรก – กราก” ตามมา เพื่อความลุ้น ในการหมุนติ้ว ของลูกบอล เล็ก ๆ บางก็เป็นลูกเหล็ก บ้างบางแห่งก็เป็นลูกที่ทำจากไม้ นักพนันเอง ก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ใน Casino แต่ละแห่ง 100% เชื่อถือได้ หรือ ยัดไส้ มากน้อยแค่ไหน หากคิดตามแบบ ทฤษฎี คมคบคิด (Conspiracy) เราได้ให้ความเห็นว่า อาจมีโอกาส แฝงกลโกงภายในก็เป็นได้ นั่นแหละ ความเสี่ยง ในความเสี่ยง นักการพนันชั้นเซียน จึงเล่นในแหล่ง ที่ ค่อนข้าง น่าเชื่อถือได้เท่านั้น

 

บอลที่หมุนอยู่บนจาน จะหมุนในแรงเหวี่ยง สักระยะหนึ่ง เราเคยทำการนับ ส่วนใหญ่ โต๊ะพนัน จะหมุนลูกบอล ให้เหวี่ยงคงที่ในจานหมุนได้ 12 – 23 รอบ โดยประมาณ

เมื่อเวลาผ่านไป ราว 20 วินาที ลูกบอล จะสูญเสียแรงเหวี่ยง Momentum มันจะทิ้งดิ่งลงมา บริเวณที่เป็น Score (ตัวเลข) ในรางที่เจาะเป็นช่อง ต่างๆ นั่นเอง

 

รู้ไหม ? Roulette มีกี่ช่อง?

 

  • ในแถบ ยุโรป จะมี 37 ช่อง
  • ส่วน อเมริกา จะมี 38 ช่อง

 

*** อเมริกา ดูยากกว่าใช่ไหม เพราะ โอกาสถูก หารลง ไปอีก 1 ตัว มากกว่า ฝั่งยุโรป ***

History ของ เกมส์ รูเรต

 

roulette ถูกทำการค้นพบ โดย คุณ “Blaise Pascal” (อันนี้ นักประวัติศาสตร์หลายๆท่านเชื่อแบบนั้น) แต่เหลือเชื่อใช่ไหม ตอนเด็กๆ สมัยเรียนหนังสือ เราพบว่า ปาสคาล เป็นนักวิทยาศาสตร์ นี่นา ทำไม มาเปิด Casino? ,

 

คำตอบ :

 

 

 

 

 

 

แหล่งที่มา

https://en.wikipedia.org/wiki/Roulette_(curve)

https://en.wikipedia.org/wiki/Roulette#History

https://en.wikipedia.org/wiki/Roulette_(disambiguation)

https://en.wikipedia.org/wiki/Postage_stamp_separation

การรักษาสิว – รวบรวมงานวิจัย | Blog SirWilliams.ORG

Research Acne Treatment
รวบรวมงานวิจัย เกี่ยวกับการรักษาสิว

อันดับแรก – เรื่องสิว แม้จะเป็นเรื่อง ความสวยความงาม หรือ ผู้ใหญ่ อาจมองว่า พวกเด็กวัยรุ่น วัยใส มักมีปฏิกิริยา เรื่องของ ความสวยความงามบนใบหน้า , สำหรับ ผู้เขียนเอง ในยุค รุ่น ปู่ ย่า หรือคนที่เกิดในยุค สงครามโลก ครั้งที่ 2 มักจะไม่เน้น ความงาม ที่รูปลักษณ์ หน้าตา แต่จะมุ่งเน้น เรื่องของจิตใจ และ พฤติกรรม การวางตัวเป็นหลัก

ผู้เขียน (ในปี 2017) เราอยู่ในยุค ที่โลกเรา ขีดเส้น ทางสังคม และ ระบบเศรษฐกิจ ของประชากร ว่าเป็นยุค Generation Y, Generation Z. ในฐานะคนไทย ที่ได้รับ อิทธิพลแผ่ซ่าน มาตั้งแต่ช่วงยุคต้นสงครามเย็น (50s) จวบจนปัจจุบัน เราจะเห็น ดารารุ่นใหญ่ ที่เป็นผู้บุกเบิก เรื่องการ ศัลยกรรม และ การดูแล ผิวพรรณ จนเราเริ่มมาเห็น ครีมบำรุงผิว ในช่วงยุค 70s เมื่อ อุดมการณ์ ทางการเมือง หดหาย เรื่องความงาม เป็น อุดมการณ์ ทางปัจเจก เพราะ อิทธิพลทางการขัดเกลาทางสังคม เริ่มมีความเป็น ปัจเจกมากยิ่งขึ้น

ผมเลย รวบรวม ความสมเหตุสมผล เพื่อ นำบทความ วิจัยเรื่อง การดูแล รักษาสิว ที่คัดกรอง และ หามาได้
แชร์แด่ ท่านที่มีปัญหาเรื่อง สิวแบบผม โดยเฉพาะ ท่านที่มีผิวมัน หน้ามัน มีสิวอักเสบ และ สิวอุดตัน

ก่อนอื่น ผมได้มีประสบการณ์ โดยตรง ที่เลวร้าย จากการ รับประทาน อาหาร จำพวก Fast Food ที่มี Cheese เยอะๆ และ แซนวิช ทานง่ายๆ ตามร้านสะดวกซื้อครับ ทำให้ ผิวของผม เห็นได้ชัดว่าเสื่อม และ แก่ก่อนวัย อีกทั้ง เรื่องของ การเมินเฉยต่อการ ดูแลรักษาสุขภาพ และ การสูบบุหรี่ มาอย่างต่อเนื่อง เลิกบ้าง กลับมาสูบบ้าง ตั้งแต่ปี 2005 จนมาบัดนี้ ก็ราว 12 ปีแล้ว ที่เรายังสูบบุหรี่อยู่ ผมเลยริเริ่ม โครงการ นักธุรกิจ เลิกสูบบุหรี่ ให้แก่ บริษัทต่างๆ เข้ามาร่วม

หากคุณ กำลัง ศึกษา เรื่องการรักษาสิว อย่างหมดจด เด็ดขาด และครอบคลุม ผมจะเป็นแหล่ง สืบค้น เรื่อง งานวิจัย สำหรับการรักษาสิว ที่หาได้ตาม Internet และหาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือครับ สำหรับคนที่มีปัญหา เรื่องผิว ที่ต้องการทางออก แล้วยังคง มีปัญหา จากการเดินเข้า Clinic ความงาม

บางที หมอผิวหนังก็เก่งนะครับ บางที หมอผิวหนัง ใช้เวลากับเราน้อยเกินไป — ลองสังเกตดูครับ ว่า ตามสถานที่รักษาสิว ยอดนิยม เป็นเรื่องของ Brand คนเข้าๆ – ออกๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ผมเลย อยากหาพื้นที่ตรงนี้ มาเขียน BLOG เพื่อ รวบรวม สิ่งที่ตัวเอง เป็นอยู่ และ สำหรับ ผิวคนแพ้ง่าย หน้ามัน ปากแห้ง และ เป็นปัญหาจากการทำงานหนัก ความเครียด หรือ ปัญหา ผิว ความเสื่อมโทรม มาจาก การทำงานหนัก โดยเฉพาะครับ ตรงนี้ ลองมาค้นคว้าร่วมกันดู เพื่อเป็น ตัวประกอบ เพื่อเลือกรักษาสิว หรือ ปัญหาผิวหนัง ที่เหมาะสมกับท่านที่สุด, ผมได้ใช้เวลามาหลายปี สืบค้น เรื่องการแก้ปัญหาส่วนบุคคล เรามักค้นพบ และ พบเจอ สิ่งที่เรียกว่า “การอวย” สินค้า และ บริการ ด้วย หน้าม้า ที่จ้างมาอีกที ตรงนี้ ทำให้เราได้รับ ข้อมูลข่าวสารที่ผิดๆ และหลงเชื่อ จาก สิ่งบอกเล่า จากคนที่เราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ผมเลยคิดว่า ยังมี ผู้ที่มีปัญหา อีกจำนวนหนึ่ง ที่ต้องการ ศึกษา ข้อเท็จจริงให้ดีกว่านี้ ก่อนการตัดสินใจ เพื่อหา Solution ที่เหมาะสม ที่สุดกับเราครับ หวังว่า บทความนี้ จะมีประโยชน์ยิ่ง สำหรับท่านผู้อ่าน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

  1. แนะนำ ให้ลองหา “New prescription Acne medication 2017” ใน Google นะครับ

เมื่อผมลองค้นหาคำนี้ เราจะได้แหล่งตัวยา ที่น่าศึกษามาอีกเพียบเลยครับ

อันนี้เป็นบทความ รีวิว เกี่ยวกับ ตัวยาต่างๆ (ข้อมูลเชิง Fact) อันนี้ เขาจะเล่าไปเรื่อยๆ สำหรับตัวยา หรือ ใบสั่งยารักษาสิว (ใช้คำว่า เยียวยาเรื่องสิว สำหรับ กฏหมายต่างประเทศ) ยาแต่ละชนิด จะถูกอธิบาย ตั้งแต่ ยาสิวทั่วๆไป ที่มีลักษณะ อ่อน ไม่มีผลเสียกับสุขภาพ หรือ ยากลุ่ม ที่ใช้บ่อย พบบ่อย เขายังแนะนำว่า แต่ละคน ต้องการตัวยาไม่เหมือนกันครับ และกระบวนการเยียวยา ต้องอาศัยความชำนาญพิเศษ รวมทั้ง การผสมกันระหว่างขนาดยารักษาสิว ชนิดต่างๆ สำหรับผม คงต้องพึ่งยาชนิด Strong Type ที่ รักษาสิว ประเภท Nodules อันนี้ อยากให้ คนที่มีปัญหา สิวช้ำหนองช้ำใน จากพฤติกรรม แล้ว การหมักหมม เพราะทำงานหนักแบบผมได้ลองศึกษาดูครับ ส่วน ตอนหน้า ผมจะมาบอกว่า นอกจากยารักษาสิวแล้ว อะไรคือ สิ่งที่ยั่งยืน ในการรักษาสิวอย่างแท้จริง และ ไม่กลับมาเป็นอีก

 

สูตรยาแต้วสิว สูตรแรก “Benzoyl Peroxide”

สูตรแบบ อ่อน เช่น “Benzoyl Peroxide” เป็นตัวยาแต้มสิว ที่ใช้ง่ายสุด และ มี Side Effect น้อยกว่า ลองดูว่า ยาแต้มสิว ชนิดต่างๆ มี Base ส่วนผสมหลัก ทำมาจากอะไร ?

เริ่มจาก “Benzoyl Peroxide” หรือ ที่เราเรียกว่า BP มักเป็น ใบสั่งยา ที่ได้รับการใช้บ่อยที่สุด
ชื่อทางการค้า ที่มักคุ้นเคย

  • Brevoxyl
  • Benzaclin
  • Benzac AC
  • Triaz

มักเป็น Gel หรือ ครีม และอาจเป็น โฟมล้างหน้าก็ได้ การทำงานของมัน คือการนำ Oxygen ไปสู่ใต้ผิวหนัง
โดยหลักการประมาณว่า ทำให้ เชื้อ Bacteria อยู่ไม่ได้ เมื่อมี Oxygen 99.9% ซึ่งวิธีการนี้ ใช้ได้ดีหากใช้ได้ถูก Dose ยา นะครับ

ปัญหาของยาแต้มสิวชนิด “Benzoyl Peroxide” มักจะเป็น ยาแรงเกินไปครับ ผมเอง ต้องดูฉลาด ยาแต้มสิวบ่อยๆ เคยโดน พวกขายตรง มาหลอกขาย พวก สูตรรักษาสิว แล้วเอาสารเคมี ที่มีส่วนประกอบเข้มข้นของยาตัวนี้มาหลอกขาย ให้ดูเหมือนของดี ใส่สารเข้มข้น สิวหายเกลี้ยง ผมลองแต้มแล้ว หนักกว่าเดิมอีก ฉนั้น อย่าไปเชื่อ พวกขายตรงมากนัก พวกนี้ ถูก Training มามั่วๆ ทำให้ได้ยอดขาย เร็วๆ เท่านั้นเอง เขาไม่ใช่หมอ แต่จะมาอ้าง เป็นเวชสำอาง อะไรแบบนั้น ใช้แล้วอาจหน้าพังได้ครับ ถ้าไม่รู้เท่าทันเรื่องพวกนี้

ไอ้เจ้าตัวยานี้ ไม่เหมาะสำหรับใช้ทั้งใบหน้าครับ โดยคนส่วนใหญ่ มีประสบการณ์ เรื่องแพ้สารตัวนี้เยอะ แล้วก็ มีปัญหาเรื่องผิวไหม้ แสบ คัน แล้วเกิดอาการลอก หากคุณได้ใช้ตัวยาชนิดนี้แรงเกิน 5% อันนี้ ควรปรึกษาหมอที่ไว้วางใจได้ดีกว่า โดยถามหมอที่เชี่ยวชาญ เรื่องผิวหนังครับ จะได้ไม่เสี่ยง และ ระวังพวกขายตรงให้มากที่สุด แต่ส่วนใหญ่ หมอเองก็มักให้ยาแรง โดยจ่ายยา ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide ให้แก่คนไข้ 10% เลย !! เกิด Side Effect ตามมาอีกครับ อย่างไรก็ตาม แม้แค่ส่วนผสมเพียง 1% – 3% ก็สามารถสร้างอาการแพ้ให้เกิดขึ้นได้ครับ ทางเทคนิค เขาว่า ไม่คล้ายกับ อาการ “Hardening Effect” ของกลุ่ม BP อยากให้ศึกษาและทำความเข้าใจ อย่าสับสนกันครับ

หากจะเริ่มใช้ยาตัวนี้ (ความเห็นส่วนตัว ผมขอผ่านครับ เข็ด) แต่ถ้าได้ โดนแนะนำ แล้วอยากลอง แนะนำให้ทดสอบ ตัวยาขนานอ่อนๆ ไปก่อน เช่น 2-2.5% ก็พอแล้วครับ .
ในแหล่งที่มา ที่กล่าวอ้างข้างต้น หากคุณได้ลองศึกษา ก็จะพบคำแนะนำ การใช้ยา สำหรับคน Asia ด้วยครับ โดยเลือกครีมที่อาจมีส่วนผสมของ วิตามิน E ผสมอยู่ครับ เห็นบอกว่า มันจะช่วยเกี่ยวกับเรื่อง เม็ดสี หลังจากรักษาสิวไปแล้วด้วยหล่ะ

ตอนหน้า ผมจะ Research ยาตัวอื่นๆ ดูครับ เช่น “Azelic Acid” , “Antibiotics” และอื่นๆอีกมากมาย ให้ สมาคม ชาวสิวเห่อ อย่างเราๆ ได้ทดสอบประสิทธิภาพ

แนะนำ เพิ่มเติมครับ : หากการดูแลผิวอย่างยั่งยืน ละครบถ้วน ลงทุน ซื้อของดีๆ มาติดบ้านไว้ อย่าง Personal IPL ของ Pione. ที่ใช้ นวตกรรม Xtensive Flash ซึ่งโดดเด่น ไม่เหมือนใคร ราคา อาจสูงกว่า IPL ตามท้องตลาด แต่ผมว่า เหมือน ขับ รถ BMW ครับ ซื้อรถก็ต้อง ซื้อที่ สมรรถนะ ส่วนการเลือกพวก IPL ก็เช่นกัน หากเอาเรื่อง Deep จริงๆ แนะนำ ซื้อของดีๆไปเลย เพราะมันคุ้มหากลองคิด เปรียบเทียบกับ การทำ เลเซอร์ ที่คลินิค หรือ การทำ IPL ที่ Clinic ครับ

เพิ่มคุณค่าโรงแรม สร้างบรรยากาศที่ดีกว่า และ สิ่งเล็กๆในห้องน้ำ

ยกระดับ โรงแรมให้เป็นมืออาชีพ ด้วยสิ่งที่เราไม่คิด และ ซ่อนในมุมเล็กๆ ด้วย Soap

เราจะสังเกตว่า การจ่ายเงินเพิ่มขึ้น ให้แก่โรงแรม ไม่ได้เกี่ยวกับว่า โรงแรมนั้นๆ จะอยู่ในทำเลประเภทใด จะติดทะเล หรือ ใกล้แหล่งอาหารการกิน เช่น ร้านอาหารทะเลสดสะอาด มาตรฐานระดับ 5 ดาว หรือ สถานบันเทิง ที่น่าสนุกสนาน แต่สิ่งเหล่านั้น ไม่เทียบเท่ากับ Value ที่เป็น Experience ในระดับ ที่ติดตาตรึงใจ และ หาจากที่ไหนไม่ได้แล้ว

ผู้เขียนเอง เคยเจอประสบการณ์ เสียค่าโง่ เพราะ เลือกห้องพักไม่เป็น โดยใช้ Platform Online แบบสมัยใหม่ ทำให้เรา ไม่ทราบ ความเป็นมาของ โรงแรมที่พักแห่งนั้น

บริการแย่ๆ ถ่ายรูป แต่งภาพ หลอกลวงลูกค้าให้ไปพัก พันเหนาะๆ คืนละ 7,000 บาท แบบนี้ ผู้เขียนเคยโดนมาแล้ว
สภาพ ห้องพักที่ยังสร้างไม่เสร็จ เหมือนที่ท่ายชายทั้งหลายแซวเป็นมุก แบบหนัง AV ที่ไม่ตรงปก อย่างใดอย่างนั้น

ภาพที่โกหกหลอกลวงใน เว็บไซต์จองโรงแรม

ภาพ ที่ขาย ระดับ 12,000 บาท สร้างจินตนาการ แต่ว่า พอไปจริง ทั้งที่และทำเล อย่างกะ โรงเตี๊ยม 250 บาท
ระดับ Amenity ของโรงแรม หายไปหลายเท่าตัว
เทคนิค ที่เขาทำกันเป็นล่ำเป็นสัน จนตอนนี้ ผู้เขียนตื่นรู้และฉลาดขึ้น วันหลังผู้เขียนจะเขียนเทคนิคการเลือกโรงแรมที่พักอย่างไรไม่ให้เสียหมา. เรานั้น ต้องการ สัมผัส และ บรรยากาศที่ดีที่สุด ในเงินที่เราจ่ายไป แต่ส่วนใหญ่ เรามักเจอ ภาพ SCAM จากใน Net, ที่เราไม่อาจสัมผัสได้จริงก่อน โดยเฉพาะ การไปพักในช่วงมรสุม และ เลือกพัก เพียงเพราะ รูปภาพ ที่มีสระน้ำใสแจ๋ว ซึ่งผิดธรรมชาติ อันนี้ต้องระวังเรื่องราคาครับ เราควรเช็ค Rate มาตรฐาน หรือดู ราคากลไก ในต่างประเทศ หากหาที่พักดีๆ ไม่ได้ในช่วงนั้นๆ ให้เรา Plan การท่องเที่ยวก่อนที่จะถึง ฤดูนั้นๆ และระวัง การรีวิวหลอก จากพวก หน้าม้า ที่โรงแรม Low Reputation ที่จ้างคนว่างงาน มาพักโรงแรมฟรีๆ แล้วมี รีวิว 5 ดาว กันไป พวกนี้ ทำให้เรา ขาดทุนในเชิงการซื้อประสบการณ์ดีๆ สำหรับวันหยุด ที่คู่ควร อยากให้ ตระหนักคิดไว้ครับ 1 ปี เราแก่ลง เราเที่ยวได้ ปีละ 2-3 ครั้ง จ่ายให้ของที่ดีกว่า อย่ารีบร้อน อย่าอ่าน รีวิวในเน็ต จากแหล่งเดียว มันจะพลาดแบบผู้เขียน นี่แหละ

ก็เลยเตือน ท่านผู้อ่านครับ เวลา เราไป พักที่โรงแรม ของดีที่ไม่สามารถหลอกกันได้ง่ายๆ คือ สบู่โรงแรม หรือ Facilities ที่เป็น ส่วนหยุมหยิม ให้เรา เลือกเปรียบเทียบตรงนั้น มันมักออกมาในภาพ แบบโกหกเราไม่ได้เลย ลองหารีวิว ที่เป็นงานถ่ายรูป จากผู้ที่เข้ามาพัก จะปลอดภัยกว่า และ ลองสอดส่อง ห้องน้ำ และ สิ่งที่วางอยู่ในห้องน้ำ เราควรจะจ่ายเงินตามจริงจากของเหล่านั้น เลือกโรงแรม ที่เขามีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่จริงใจมากกว่า

ตัวอย่างสบู่ ที่เขาจริงจังมากๆ เช่น Shiseido จากญี่ปุ่น

เราก็รู้ๆกันอยู่ ญี่ปุ่นคลั่งวัฒนธรรมของตนเองมากๆ แล้วมันก็ออกมาสู่กลิ่นสบู่ที่เป็น brand นี่สิ จนฝรั่งเอาไปขายเพลินๆ และติดตลาดใน Ebay เข้าให้ นั่นคือสบู่ รุ่น Eco Soap Face Cleaning ขนาด 18g. หรือสบู่ก้อนโรงแรม ขนาดมาตรฐานนั่นเอง ( ภาพจาก Ebay Shiseido Amenity Soap )

 

สบู่เหลว สำหรับโรงแรม สบู่ Eco จาก ญี่ปุ่น

โรงแรมระดับ 5 ดาว ให้ของดีๆ แก่แขกจริงๆ

สินค้าจากค่าย Shiseido เห็นราคาขายใน Ebay ต่อหน่วย อยู่ที่ $6.49 หรือราวๆ 227 บาท
ถ้าโรงแรมหรู ระดับ 5 ดาว แค่สบู่ล้างหน้า ก็ให้ Value กับลูกค้าในรูปแบบ ห้าดาวเหมือนกัน
สบู่ แนว Amenity ถ้าคนที่ ชอบการท่องเที่ยว การพักโรงแรม และชอบสะสม ของที่ระลึก เช่น สบู่ในโรงแรม พวกเขาเหล่านั้น จะทราบว่า สบู่เหลว หรือสบู่ก้อน คุณภาพสูง ที่ถูกสั่งผลิต อย่างปราณีต และ สร้าง Identity ให้แก่โรงแรม นั้นเป็นเรื่อง ที่น่าสะสมเอาไว้ มีแขกจำนวนไม่น้อย ที่เก็บสินค้าเหล่านี้ไปอวดเพื่อนของเรา และ กล่าวถึงบรรยากาศ ห้องพัก และ คุณภาพของบริการที่เป็นกันเอง

 

สบู่เฉพาะทาง และงานวิจัยที่น่าสนใจ
จากสบู่โรงแรม ก็เข้ามาที่ Lab และ ห้องวิจัยในทั่วโลกเรากำลังเจอ สารประกอบ (Compound) ใหม่ๆ ในสบู่ เพื่อลดการเกิด แบคทีเรียฟลอร่า (Bacterial Flora), หรือพวก Microbial species หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจิ๋ว ที่เกาะอยู่ตามผิวหนังของมนุษย์ นั่นคือบทวิจัยเรื่อง สบู่ล้างมือที่ทำปฏิกริยากับกลุ่ม Gram-positive organisms ซึ่งมันคือ แชมพูหรือสบู่กลุ่มที่ ต่อต้านจุลินทรีย์แกรมบวก ในทางการแพทย์ เขากล่าวถึงเรื่องการติดเชื้อ ผ่านทาง ผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อน และ การติดเชื้อ ในอุโมงค์ใต้ผิวหนัง สบู่อนามัย จึงมีความแรงจำเพาะ ด้วยส่วนผสมสูตรพิเศษ อย่างในบทความ ที่เราได้กล่าวอ้างและหยิบยกมาประกอบ อย่างเช่นในมุนษย์ เราจะมีกลุ่มที่เรียกว่า “Indigenous Microbiota” โดยจะประกอบไปด้วย Eucaryotic Fungi และพวก Protists โดยจะมี แบคทีเรีย เป็นส่วนผสม อยู่ใน microbial components จำนวนมากๆ เราจะพบตามสื่อโฆษณา บ่อยๆ ว่า แบคทีเรีย นั้นคือเชื้อโรค แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง หากศึกษา เรื่องราว อย่างใช้สติ สักนิด เราจะพบว่า แบคทีเรีย เป็นส่วนผสมพื้นฐานที่อยู่ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งร่างกายมนุษย์

 

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เรามี Normal Bacterial Flora หรือ แบคทีเรียประจำถิ่น ที่เราไม่อาจระบุว่าเป็นเชื้อโรค ได้นัก ควรศึกษาถึงสิ่งที่เรากำลังจะ Protect หรือ Eliminate มันเป็นเรื่อง สารผสม ในสบู่ ที่เราต้องการใช้เฉพาะเจาะจง

หลังจากอ่านบทวิจัยนี้ คาดว่า สบู่ที่มีความจำเพาะ ที่ใช้ในวงการแพทย์ เฉพาะ สบู่ล้างมือ ที่ใช้ในห้องผ่าตัด จะมีคุณลักษณะจำเพาะ ที่พิเศษไปอีกขั้นหนึ่ง

ส่วนเรื่องสารประกอบทางเคมี ที่ควรแก่การศึกษา เราจะพบคำว่า 2,3-Dihydroxy-3-methylpentanoic acid
( Code ใน สารเคมี KEGG = C04104, เป็นกลุ่ม Compound 8 ), ดูที่

จะกล่าวถึง Isoleucine เป็นพวก α-amino acid ไว้เขียนส่วนขยาย ในกลุ่มนี้ทีหลัง, เป็นส่วนผสมในร่างกายมนุษย์ แต่ร่างกายไม่สามารถ สังเคราะห์ออกมาได้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการย่อย ในการกินอาหารของเรา เท่านั้น

 

การเคลมที่น่าสนใจ (Claim) นวตกรรมสบู่ ไม่ใช่แค่ถูไถ จนน้ำหนูไหล

ในสิทธิบัตร : Washing composition capable of preventing and ameliorating skin irritation ชิ้นงานนี้ เกี่ยวกับเรื่องสารเคมีที่ใช้สำหรับชะรำล้าง – มักจะมีส่วนผสม ที่มากกว่า 1 Surfactant แต่ไม่มีส่วนผสมของ โปรตีเอส (Protease) เป็น เอนไซม์ พอลิเพปไทด์ ในเรื่องของการพัฒนา ในสิทธิบัตรตัวนี้ มีสารประกอบ ที่เลือกมาจากกลุ่ม ที่มีส่วนผสมของ Leupeptin โดยมีสูตร “##STR15##” บทสรุป ของสิทธิบัตร นี้ กล่าวถึง การชำระล้าง สารประกอบที่มีมากกว่า 1 จะมี กระบวนการที่เรียกว่า “Protease Inhibitory Activity” โดยจะเป็นการป้องกัน และ การระคายเคือง หรือการแพ้สารนั้นดีขึ้น “Skin Irritation”

นวตกรรมสบู่ เทคโนโลยีจาก Lab แต่งเติมให้เรา เจอสบู่ที่น่าสนใจออกมาสู่ตลาด หากเราเป็นเจ้าของโรงแรม ควรค้นหาสบู่ที่ควรคู้บารมีและการเติบโตก้าวหน้าของโรงแรมของเราเช่นกัน อย่าให้มันน่าเบื่อ และ เรียนรู้การหาสบู่ที่ดีกว่า เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของวัฒนธรรมที่มีกลิ่นอายเล็กๆ หลงเหลือในสถานที่ ที่ควรจะเรียกมันว่า Amenity. ที่จดจำไม่รู้ลืม

 

อีกเหตุการณ์หนึ่ง คุณค่าที่หลอกไม่ได้

มาดู ความทุ่มเท ที่หลอกลวงด้วยภาพไม่ได้ เราลองค้นหาโรงแรม “Las Alcobas” ได้ รีวิว เต็ม 5 ดาว ใน Trip Advisor และพบว่า รีวิว ได้ส่งผ่านไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีการจัดตั้งใดๆ ทั้งสิ้น สารตั้งต้นที่ดี คือพยายามเข้าใจ Sense สัมผัสของลูกค้า เหตุผลที่ง่าย และ พื้นฐานที่สุดของลูกค้า คือ ประสบการณ์ ที่ดีกว่า การมีชีวิตในชั่วเวลาหนึ่ง ที่เขาซื้อมา นั่นแหละ เขาจึงจ่ายแพงกว่า สบู่โรงแรม ที่คุณเลือกได้

หากคุณได้ลองไปดูรีวิว ที่นี่ แล้ว Research เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ ที่พักแห่งนี้ คุณจะพบว่า ประสบการณ์นี้แหละ ที่ใช่เลย ลองดูที่นี่ครับ ใน Trip Adviser : https://www.tripadvisor.com.au/Hotel_Review-g150800-d1652453-Reviews-Las_Alcobas-Mexico_City_Central_Mexico_and_Gulf_Coast.html

Win point ของโรงแรม ระดับ High-End

ไม่ใช่ทำเลที่เจ๋งเป้งเลย แต่ดันกลายเป็นเรื่อง หยุมๆหยิมๆ ที่โรงแรมอื่น ไม่ได้ทำ คือการสร้าง Identities ของตนเอง ด้วย Service ที่เหนือคู่แข่งเข้าไปอีก สิ่งนี้แหละ ที่เราหาไม่ได้จากที่อื่น แล้วก็เกิดการบอกต่อ

 

สูตร การผสมเล็ก ผสมน้อย ตลอดเวลา เพื่อสร้างความประทับใจในงานโรงแรม แบบนี้ อยากให้โรงแรมในประเทศไทยดูไว้ครับ ผมไปหลายๆ โรงแรม มีแต่ Take เงินในกระเป๋าแขก แต่เราไม่ได้ service ที่ดี คุ้มมูลค่า กลายเป็นว่า เราต้องเข้าโรงแรมใหญ่ๆ 5 ดาวขึ้นไป และพบว่า พวก โรงแรม แต่หน้ากากสวยๆ แต่ Experience 2 ดาว มีมากมาย ทำตัวเอง เป็น 4 ดาว เนียนด้วยการ อั้บ Facilities ให้ดูหรู

แบบนี้รู้สึกได้ว่า Fake. เวลาผมไปเที่ยว ยุโรป สิ่งที่เห็นต่างคือ สิ่งอำนวยความสะดวกเล็กๆน้อยๆ ในเชิง Experience นั้นเขาละเอียดมากๆ

 

ลูกค้านั้นอยากเลือก และ เกิดรีวิวดีๆตามมามากมาย

เข้าใจแขกที่มาพัก เขาอยากได้ Exp. และ สัมผัสที่เหนือกว่าที่อื่น ทำเสียเถิด ทำให้เหนือระดับ อย่าเอาแต่เก็งกำไร ห้ำหั่น ตัดราคา หรือโก่งราคา แบบที่ว่า ทำแบบลวกๆ ไร้มาตรฐาน ใครทำอยู่ก็เลิกทำเสีย มันเสียทั้งวงการ

มีหลายโรงแรม ที่เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว แต่ก็ยัดไส้ สบู่ในห้องอาบน้ำ ด้วยสบู่เกรดต่ำ เข้าไปใช้แล้ว สงสารแขกที่มาพัก พวกนี้ชอบเคลมว่า ของดี เข้าไปมีแต่หน้ากาก ไร้ความเป็นมืออาชีพ

หากท่านผู้อ่าน เป็นแขกที่คอบหาที่พักในโรงแรม โปรด เช็คสบู่ที่ท่านได้ใช้ไปแล้ว พิจารณาว่า ท่านได้เสียเงินคุ้มค่ากับที่ไปพักหรือไม่ แล้วดูเรื่องอาหารการกิน การเดินทางไปสู่ที่พัก เจ้าหน้าที่ ให้ความเป็นส่วนตัวกับเราหรือไม่ Amenity ไม่ใช่แค่เรื่องสนามกอล์ฟสวย แคดดี้นมใหญ่ แต่เป็นเรื่อง ความปลอดภัย ความสบายใจ สัมผัสที่ละมุนกว่าในช่วงเวลาที่จำกัด ยังมีอีกหลายโรงแรมในไทย ที่มองข้ามสิ่งนี้ แล้วขยี้ แขกผู้มาพักด้วยสบู่เกรดต่ำ ฟอกอาบน้ำแล้วแสบคัน พร้อมนอนในค่ำคืนที่หลับไม่สบาย หากท่านสนใจเรื่องการค้นหาที่พัก ที่เหนือระดับ ไว้ตอนหน้า

รูปแบบต่างๆ ของเงินและมูลค่าของเงิน

ความเชื่อ และการเปลี่ยนแปลงของ เงิน – เปลี่ยนรูปแบบธุรกรรม ตอนที่ 1.

คุณค่าของเงิน ไม่ใช่เรื่องการจับจ่ายใช้สอย หากคุณเป็นลงทุน และ เป็นผู้ศึกษาการทำธุรกิจ บทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับทำความเข้าใจ นิยามและบริบทของเงิน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเงินไปตามรูปแบบและยุคสมัย โดยมีผลกระทบมาจาก การเมือง และ การเปลี่ยนรูปแบบทางสังคม ความนิยม อีกทั้งความเชื่อในเรื่องของ คุณค่าของเงิน โดยเงินเป็นตัวกลางของการแลกเปลี่ยน มูลค่า ที่เรามีให้กับ มูลค่าของสิ่งหนึ่งที่เราได้รับมา การทำงานแลกเงิน กับการสร้างระบบและสร้างธุรกิจที่ทำเงินจึงแตกต่างกัน อยากให้ผู้ที่กำลังหาเงิน และแสวงหาโอกาส ให้มองบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความเชื่อเหล่านี้ จะได้ไม่วิ่งไปตามกับดัก ที่ทำให้เราออกห่างจาก คุณค่าที่สูงกว่าเงิน

การขุดหาเงิน

ในยุค ทุนนิยม (Capitalism) ในบทความนี้ จะยึดโยงไปที่ประเด็น เกี่ยวกับ Wage labour หรือ ค่าแรงงาน เป็นค่าจ้างจากการเซ็นสัญญา โดยนายจ้าง และ โดยทั่วไป ตลาดแรงงาน ที่มีค่าแรง เป็นตัวกำหนด ส่วนในทางปัจเจกของแต่ละบุคคล ในรูปแบบของ Marxist Economics ผู้ที่เป็นเจ้าของ ที่เป็น ปัจจัยการผลิต และ สินค้าของทุนเหล่านั้น เรียกว่า กลุ่มทุนนิยม และในหลักการนี้ได้อธิบายต่อว่า บทบาทของ นายทุน ได้เปลี่ยนบทบาทไป อันดับแรก ได้กล่าวถึง สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ หรือไม่มีคุณค่า ระหว่างผู้ผลิต และผู้จ้างให้ผลิต แรงงาน ได้รวมไปถึงทรัพยากรณ์ทางด้าน ร่างกายและ มันสมอง จิตใจ ของมนุษย์ รวมไปถึง ศักยภาพของ กิจการและ ทักษะการบริหาร ในส่วนที่เป็นกระบวนการผลิตและบริการ มันเลยเป็นที่มาของ กำลังแรงงาน

ที่กล่าวมาคร่าวๆ ทำให้เราพอทราบ scope ของค่าแรง และ แรงงาน ในฝั่ง การผลิต ตรงนี้เอง ที่จะยึดโยงไปในส่วนของ คุณค่าของเงิน และผมจะให้น้ำหนัก โดยยกตัวอย่างของ เงินในแต่ละประเภท รวมไปถึง เรื่องเงินเฟ้อ ในกระแสเศรษฐกิจ อีกทั้ง ทำให้คุณเริ่มเข้าใจ แนวทางของการหาเงิน จากกระบวนการแลกเปลี่ยน และ การเก็งกำไร อีกทั้ง ยังต่อยอดในเรื่องของ การลงทุนในหุ้น เราต้องอาศัยทักษะการเรียนรู้ จากหลักการที่มาเหล่านี้
ลักษณะของเงิน ประเภท Fiat และ Digital Money

ผมได้ขอกล่าวถึง เรื่องเงินในประเภทที่ Specific ลงไปอีกหน่อย นั่นคือ เงินในรูปแบบ Fiat หรือ รูปแบบเงิน เป็นเงิน ที่จัดตั้งโดย กฏหมาย (ลองศึกษาเกี่ยวกับ Legal Tender กับเรื่องระบบเงิน) หรือ รัฐบาล ซึ่งผมลองศึกษาประวัติศาสตร์ชาติจีนในสมัยราชวงศ์หยวน ระบบเงินตรา เฟียต นั้นคือเงินประเภท กระดาษ ซึ่ง มันก็คือ เงินตราที่ถูกกำหนดค่าเงินโดยรัฐบาล และเป็นเงินที่เราใช้ในปัจจุบัน ในสมัยราชวงศ์ ซ่ง มีการนำกระดาษมาทำเงิน เรียกว่า Jiaozi แต่ตอนนี้ มันคือ ติ่มซำนั่นเอง

ส่วนเรื่อง Legal Tender ที่เกี่ยวกับค่าของเงิน ในแต่ละประเทศ เช่นในอังกฤษ ช่วงปี 1971 มีการเปลี่ยนแปลงของธนบัตรใบละ 10 ชิวลิง แทนที่โดย เหรียญ 50 เพนนี่ อันนี้ ได้ความรู้มาจากร้านรับแลกเงินในอังกฤษ ก็คือ พวกเหรียญที่เป็น Decimal Coin อย่าง 5p จะเท่ากับ 10 shilling เป็นกลุ่มที่มีความแม่นยำ หรือนับเต็มจำนวนได้ง่าย ส่วนอีกกลุ่ม จะนับยาก ไม่แม่นยำ อย่างพวกเหรียญ 1/2p, 1p, 2p จะเท่ากับ 1.2d, 2.4d และ 4.8d ตามลำดับ พอลองศึกษาดู ก็พบว่านับยากจริงๆ

เงินกระดาษ นั้นมีความเสี่ยง นั่นจึงเป็นเหตุผล ที่ผม หันมาสนใจ เล่นหุ้น และ ศึกษาการทำ ธุรกิจอื่นๆ เพื่อขึ้นด้วย เคยได้ยินว่า ยิ่งถือเงินสด ยิ่งจน เพิ่งมารู้สึกเมื่อเรามาตั้งบริษัท ผมเห็นได้ชัดเจนเลยว่า เงินสดมันหมดคุณค่าไวมาก ยิ่งคนเป็นหนี้สิน จากระบบสินเชื่อ คนยิ่งไขว่คว้าหาเงินสด ด้วยวิธีต่างๆ แม้แต่การขายตัว ตามแหล่งสถานเริงรมณ์ ทำให้กระแสเงินสดสะพัดไปเรื่อย มันก็เกิดการ Re-Invest. การลงทุนผลิตซ้ำ เงินที่ตีค่าในกระดาษ (Note) ที่วิ่งไปตามกระแสเงินสด ในเวลาที่ผ่านพ้นไป เราจะพบว่า ราคาสินค้า อุปโภค บริโภค ก็ทวีคูณสูงขึ้น ยิ่งในประเทศไทย เงินทุนหมุนเวียน หมุนกลับไปสู่นายทุน และ กลุ่มพ่อค้าขนาดใหญ่ และ ตัด Margin ไปเรื่อยๆ ให้ผู้บริโภค ใช้สินค้าอย่างรวดเร็ว ด้วยโปรโมชั่น และ การกระตุ้นการตลาด ด้วยสื่อสิ่งบันเทิง ในทุกช่องทาง ยิ่งในสมัยนี้ เราเข้าถึงสื่อได้โดยง่าย

เงินเฟ้อ และ เงินเฟียต

ในยุคต่อมา คนเริ่มใช้เหรียญน้อยลงเมื่อมีการใช้กระดาษเข้ามาทำหน้าที่แทนเงิน และคนก็มีความเชื่อว่า กระดาษคือเงินแล้ว วิวัฒนาการเพื่อเปลี่ยนความเชื่อทางสังคมเพื่อให้มูลค่าแตกละอย่างมีกลไกของมัน ซึ่งผมมองว่ามันต้องมาจากสมาคมและการจัดตั้งของรัฐบาลในแต่ละรัฐ การใช้กระดาษมาแทนที่เงิน ยิ่งทำให้สภาพคล่องนั้นสูงขึ้น ประเทศแรกที่ผมไปหาเจอก็คือประเทศจีน อย่างที่กล่าวไว้ในย่อหน้าก่อนนี้ ส่วนเรื่องเงินเฟียต ที่เราถืออยู่ทุกวัน คุณเชื่อหรือไม่ว่า เป็นกระดาษที่โดนผูกความเชื่อต่อๆกันมา แล้วเราก็ยังแบกรับปัจจัยความผันผวนของค่าของมัน และเราเองนั่นแหละที่แบกเราการอ่อนตัวและค่าเงินเฟ้าในมูลค่าหน้าแบงค์นั่นเอง ส่วนทรัพยากรณ์ที่มนุษย์ใช้แทนการแลกเปลี่ยนในยุคโบราณได้แก่ทองคำ ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนในสมัยก่อน เราก็ถูกสร้างให้มีความเชื่อว่า ทองคำ คือสิ่งมีค่าในยุคโบราณ เพราะเป็นโลหะที่มีความอ่อนนุ่มบริสุทธิ์ มีใครเคยตั้งคำถามไหมว่า ทองคำ จะมีวันหมดไปจากโลกใบนี้หรือไม่ ? และอนาคตมันจะมีมูลค่าสูงขึ้นไปถึงไหน แล้วมันจะตกมาเหลือ ไม่กี่ดอลล่าห์หรือไม่ ยิ่งคิด ก็ยิ่งวิตก แต่นักลงทุนคงพยายามสร้างข่าวเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับทองคำ และประเทศมหาอำนาจต่างก็ สะสมทองคำไว้เป็นการการันตีความมั่นคงของประเทศ ทองคำ เก็บไว้ในคลัง

ในปัจจุบันอย่างเหมืองทองคำเอกชน เช่น กลุ่ม ABX เป็นกลุ่มสมาคมขุดทอง เป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ ของโลก ซึ่งกลุ่มประเทศที่ผูกขาดราคาทอง ที่ผมคิดถึงแรก ก็จะมี ออสเตรเลีย กับ รัสเซีย เนี่ยแหละ ส่วนจีนก็ไม่ใช่ย่อย มีแหล่งเหมืองแร่ทองคำจำนวนมาก พวกนี้ผูกขาดเหรียญทองคำแท้ โดยที่เรายังคงใช้เงินจาก มูลค่ากระดาษ ตีตราหน้าแบงค์ ผมมองว่าจุดนี้ เป็นปัจจัยเสี่ยว เพราะในแต่ละวัน หากคุณเอง เป็นผู้ศึกษา และ ลงทุนในหุ้น คุณจะรู้ความผันผวนของเศรษฐกิจและค่าของเงินอยู่แล้ว ส่วนใหญ่แล้ว กลุ่มที่เก็งกำไร ใน Forex ก็แทบจะต้องเล่นแบบ Day Trade กันเลยทีเดียว

เงิน Digital

ทีนี้เมื่อคุณเองได้แบกเอาเงินสดไว้ในกำมือและเต็มกระเป๋า เพื่อความสุขสบายกับการใช้จ่าย สิ่งต่อมาหากคุณตั้งข้อสังเกตหรือไหวตัวทัน คุณแทบจะไม่อยากถือเงินสดหรือมีเงินสดอยู่เต็มบัญชีธนาคารแน่ๆ เพราะในสังคมจริงๆ มีคนที่ผลิตเงินได้มากกว่าคุณอยู่จำนวนมาก พวกเขาต่างเอาเงินไปลงทุนสร้างระบบเล็กๆให้แก่ชีวิต และตอบแทนมาเป็นคุณค่าอะไรบางอย่างที่ให้ในอนาคต การมีเงิน ต้องเข้าใจเรื่องเวลา ถ้าคุณไม่เข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงไปของเวลา คุณไม่ควรจะมีเงินเลย และเชื่อว่าผู้อ่านหลายคน อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เงินกับเวลามันสัมพันธ์กันได้อย่างไร ซึ่งส่วนตัวผมเองก็รู้สึกเช่นนั้นสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น แต่พอถึงวัยเสื่อมโทรม เรากลับมามองว่ากำลังผลิตที่ได้จากระบบจริงๆ และเงินที่เราได้มาจากระบบต่างหาก คือสิ่งที่เราต้องการ เราจึงเริ่มใช้เงินทำงานแทนเรา แม้จะน้อยนิด ในปัจจุบัน คนในสังคม IT ที่เป็นโปรแกรมเมอร์ นอกจากจะแอบไปซื้อคอนโดในทำเลดีๆแล้ว พวกเขาเริ่มทำเหมืองขุดเงิน Digital ที่เรียกว่า BitCoin แต่ในบทความนี้ผมจะไม่กล่าวถึงมันมาก เพราะไม่อยากให้คนหลุดประเด็นว่าผมจะชวนไปเทรดค่าเงิน BitCoin หรือชวนไปซื้อ การ์ดจอเพื่อทำการขุดเหมือง BitCoin อะไรแบบนั้น

รูปแบบทางการเงิน ที่เสมือนว่าจับต้องไม่ได้ แต่มีหลายคน จับต้องออกมาจนเป็นทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลแล้ว เพราะตามเกมส์ทัน เงินในรูปแบบใหม่นี้กลายมาเป็น ปรากฏการณ์ทางสังคม จริงจังขึ้นมาแล้ว ก็คือเงินในคอมพิวเตอร์ หรือเงินในโลกออนไลน์ นั่นเอง เป็นเพราะ ยุคสังคมของ Internet ที่เพาะบ่มคนเราตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา แล้วเราเริ่มใช้ Internet ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ จวบจนมาในปีนี้ 2017 ก็ราวๆ 21 ปี วิวัฒนาการของสังคมได้ตอบรับ การเข้ามาของโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น เรื่องของ Internet มีหลายองค์กร พยายามสรรค์สร้างโลกนี้ให้เชื่อมต่อ เพื่อเกิดการ Trading ทั้ง Information และ Value ผ่านทางออนไลน์ ได้อย่ารวดเร็ว ประเทศไทย ก็โชคดีมากขึ้นเมื่อ 4G ทำงานได้ดีและราคาไม่แพงอย่างที่คิด
ส่วนในประเทศอเมริกา เนื่องจาก eSport นั้นเป็น emerging market หรือตลาดที่เกิดใหม่ โดยใน US. มีส่วนแบ่งตลาดของ แชร์อยู่ตั้ง 4% ของตลาด Video Game, DOTA 2 กลายเป็น eSport ที่ได้รับเงินสูงสุด เป็นรายบุคคล เป็นประวัติการ จำนวน 37 ล้านดอลล่าห์ สหรัฐ ในปี 2016

Flooz.com ซึ่งปัจจุบันได้ถูกระงับการใช้งานไปแล้ว (Defunct) จัดตั้งและเป็นเว็บออนไลน์ ในเมือง นิยอร์ค สหรัฐฯ ถูกโปรโมต โดยดาราหญิง ที่ชื่อว่า “Whoopi Goldberg” ที่เว็บนี้ ชื่อ Flooz เพราะว่า เอามาจากคำในภาษาอาราบิก (Fuloos) ที่มีความหมายว่า เงิน โดยเว็บนี้ ถูกใช้เป็นที่นิยมและแพร่หลาย ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้น ของการใช้เงินออนไลน์ ตั้งแต่ปี 1999 ย้อนไปเกือบจะ 20 ปีเลยทีเดียว ตอนนี้ผมเห็นว่า ระบบเงินออนไลน์ ที่โจมตีเงินหลักๆของระบบรัฐบาล ก็จะมีเงินสกุลหลักที่ชื่อว่า BitCoin และมันมีแนวโน้มเติบโตขึ้น อย่างไม่จบไม่สิ้น คาดเดาอนาคตของมันได้ยากมาก

ส่วนการใช้งานของ ระบบเงินออนไลน์ หรือ Digital Money ในสมัยก่อน ที่เราพบ case ตัวอย่างนี้ คือการนำไปแลกคะแนนสะสม ที่เราเรียกมันว่า ระบบ Redeem มันเป็นตัวกลางของการแลกเปลี่ยน มูลค่าอะไรบางอย่าง เช่นแลกเป็นสิ่งของได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน มันได้ถูกตรวจจับได้ว่า มันเป็นตัวกลาง ของกิจกรรมที่มีความเป็น อาชญากรรมทางการเงิน และเป็นอาชญากรรมทางการเงินออนไลน์ โดยองค์กร Federal Bureau of Investigation ได้ตีความว่าเป็น crime syndicate โดยใช้รูปแบบของการขโมยเลขที่บัตรเครดิต ซึ่งการกระทำนี้ เข้าข่ายการฟอกเงินเลยทีเดียว

ที่เล่ามาทั้งหมด อยากให้เข้าใจ ว่าเงิน มาจากความเชื่อล้วนๆ ความเชื่อในการแลกเปลี่ยน คุณค่าของกันและกัน สิ่งที่มีคุณค่ามากๆสำหรับเรา อาจไร้ค่าสำหรับคนอื่น สิ่งที่เราทำให้คนอื่น อาจมีค่ามากๆสำหรับเรา ฉนั้น การจะกระทำสิ่งใดๆให้คนอื่น ให้มองที่คุณค่าของตนเองเป็นหลัก และอย่าถูกเงินครอบงำ ตอนหน้า จะเน้น เนื้อหา ทางเทคนิค ทางด้านการเก็งกำไร และ การโอนเงินระหว่างประเทศ ในรูปแบบร้านแลกเงิน  ที่ทำไม เขามีธุรกิจคู่ขนานที่ทำเงินได้เป็นวินาที และรูปแบบ ธุรกรรมของบัตรเครดิต และ นวตกรรมต่างๆ ของเรื่องเงิน มา ณ โอกาสหน้าครับ

ความเสื่อมโทรม ทางกาย และ จิต จากการทำงานหนัก รวมทั้ง สูบบุหรี่จัด

ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยเมืื่อเราเลยล่วงเข้า สู่ประตูของวัยกลางคน และเป็นช่วงประตูชีวิต เข้าสู่ ครึ่งทางของช่วงบั้นปลายชีวิต
เมื่อเราผ่านพ้นวันเกิดไป 31 ครั้ง เราเริ่มรู้สึกว่า เรากำลังนับถอยหลัง เข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวเสียที การเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แท้จริงแล้ว เราก็ค่อยๆ ทยอย สะสมความเน่าเปื่อยผุพังของ Cell ต่างๆ ในร่างกายเรา และ เรากำลังเปิดปฏิทินสู่ความตายนั่นเอง

ความเสื่อม ของร่างกาย จากเวลา ที่ผ่านไป

ระยะเวลาผ่านพ้นมาเป็น 10 ปี ตั้งแต่ปี 2007 ผมเริ่มไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ตัวเอง เพราะตอนนั้น ชอบไปดื่มเหล้าเบียร์กับเพื่อนๆบ่อยๆ เลยอยากให้ท่านผู้อ่านที่ยังหนุ่มสาว เริ่มหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพนะครับ สมัยนี้มีโลก Social ใช้ให้เป็นประโยชน์ ไปทำกิจกรรมดีๆ แบบ พี่ตูน Body Slam ที่แก แกออกวิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งยาวๆ เพื่อรับบริจาคเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์
ในทาง Fact ผมไม่อาจทราบได้เลยว่า กระแสนี้ทำไมจึงมา ไม่แน่ใจเรื่องนัยยะแฝงใดๆ จึงไม่ตัดสินใจประเด็นนี้ ครับ มีคนด่าเยอะ มีคนเชียร์เยอะ สังคม ว้าวุ่น น่าเบื่อ..

มาที่ตัวผม — การกินเหล้า สูบบุหรี่ จนเป็นพฤติกรรม มาสมัยวัยรุ่น มันก็เริ่มส่งอาการที่เป็นนัยยะ ทางสุขภาพ ค่อยๆตามมา โดยมองเห็นหน้าตนเอง แล้วเห็นความเหี่ยวย่นบนใบหน้าในวัย 31 ปีนี้

ติดบุหรี่ กับการทำงานหนัก

ผมมานึกถึงพฤติกรรมตนเอง ที่ทำให้รู้สึกร่างการเราถดถอย คือเรื่องการทำงาน และ เรื่องพฤติกรรม อันนี้เป้นสิ่งสำคัญ ที่เรามองข้ามไป รวมทั้งการทำงานดึกๆ ดื่นๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ อีกทั้ง ช่วงนี้ ยิ่งโดนงานเร่งๆ เครียดๆ และการแก้ปัญหา ซ้ำๆ ไม่เว้นแต่ละวัน มันทำให้เรา รู้สึก เหนื่อยและเพลีย ไปบ่อยๆ บางทีสมองไม่แล่น ทำให้ความสดใส ความอึด ความถึก ในการทำงาน และ ความสุขในการใช้ชีวิต ลดน้อยถอยลงไป ช่วงนี้ผมนอน ตีสี่บ้าง เก้าโมงเช้าบ้าง เพราะมีเหตุจำเป็นมากมายที่ทำให้ผมต้อง นอนดึกๆแบบนี้

ความเครียดที่เกิดขึ้น และแรงกระตุ้นให้เสื่อมวัย

การเสื่อมวัย และรู้สึกเฉื่อยชา มาจาก พฤติกรรม ความเคยชิน ที่เราทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วมันก็เป็นสิ่งที่เราเรียกว่า การติดหนี้สุขภาพชีวิต การติดหนี้ด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งไม่น่าเอา Value ของชีวิต ไปติดอยู่บนกับดักพวกนี้ ทำงานแลกเงิน แต่ชีวิต ควรจะทำให้พอดี เหมาะสม และ ไปด้วยกันได้ การที่ผม สูบบุหรี่ แม้ว่ามันจะมีไส้กรอง ที่ทำมาจาก Charcoal อย่าง Sky-Blue นั่นก็ยังมี สารก่อมะเร็งตั้ง 150 กว่าชนิด และยังมีสารหนู ที่เป็นสารเคมี และเพิ่มปัจจัยความเสี่ยง กับการเป็นมะเร็งปอดตามมา เมื่อรู้แล้ว ก็มีใจลดละเลิกสิ่งเหล่านี้ครับ

คุณค่าของการมีชีวิต ที่ยั่งยืน

ผมเริ่มมามองเห็น สิ่งที่ควรจะทำ ทำแล้ว ทำให้ชีวิตดีขึ้น คือมองกลับมาที่การมีชีวิต การก่อเกิดใหม่ แล้วก็ไปตามวัฏจักร ในแบบที่มันสมควรจะเป็น เลยมองหาความชิวอย่างเป็นธรรมชาติ และ แสวงหา เรื่องราวดีๆ เช่นการหันมาใส่ใจสุขภาพ ลดหารทาน Double Cheese Burger ที่ผมเอง ชอบมากๆ เห็นวัยรุ่นสมัยนี้ไปเล่น ยิม ออกกำลังเพื่อสุขภาพกันมากมาย แบบนี้ต้องหาโอกาสไปทำบ้างแล้ว และลดเรื่องความเครียดกับงานลงไปบ้าง

เวลา สำหรับงาน หรือ เวลาสำหรับ ความสุข

เลือกเอา ผมต้องพยายาม SETUP เวลาส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาบ้าง ใช้เวลาที่มีประโยชน์ต่อชีวิตตนเอง โดย Recovering ส่วนที่สึกหรอของร่างกาย โดยเฉพาะเรื่องความโทรม จากการทำงานหนัก ให้มีสุขภาพที่ดีกลับมา ตอนนี้ ผมมีงานเร่งด่วน และพยายามลดทอนโดยเพิ่มเวลาพักผ่อน โดยเฉพาะการนอนให้ได้มาก ก็ควรทำให้ได้ 7 ชั่วโมง อย่างน้อยต่อวัน และจะฝึกการมีวินัย กับชีวิตตนเองให้ดีมากขึ้น การทำธุรกิจ สุขภาพ ก็ต้องมาพร้อมกับ งาน อันนี้เริ่มตระหนัก
ใครยังมีแรงก็ลองทำไป ทำไปหนักๆ สัก 10ปีก็แผ่ว ถึงว่าพี่ๆ Senior ที่เคยเจอใน Office ที่งานประจำ พวกเขาทำตัวแผ่วๆ ให้สิ่งที่ดี หรือ Experience ที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตครับ

คุณค่าของคำว่าเวลา

Time และ โอกาส คือ ปัจจัยการผลิต, ต้นทุนชีวิตที่แต่งต่างกัน จึงเกิด ข้ออ้างของการมีชีวิต ที่หลากหลาย ไม่เหมือนกัน เราเห็นเรื่องสุดประหลาด จากมันสมอง และ อารมณ์ ที่เจือไปด้วย แนวคิด ภาษา และ Mindset ที่คละคลุ้ง แตกต่าง จนจับต้องไม่ได้ ว่าสิ่งใด คือ สัจธรรม หรือสิ่งใด คือเรื่องกลลวง นั่นคือ ปรากฏการณ์ ของ คน หลายๆ คน มาประกอบเข้ากัน จนเป็นสังคม 1 สังคม (เขียนไว้ใน Value ที่มองไม่เห็น )

รู้สึก โทรมผิวมัน หน้าผากมันเยิ้ม ไม่สดใส เลยมาดูแนวทางต่างๆ

เห็นพวกเล่นนวตกรรมความงาม ระดับโหดๆ ในตลาดบน ไปพบเรื่องใหม่ ที่ไม่ค่อยเห็น ในไทยเขียนอวยกัน คือเรื่อง “E3 Treatment”

ป้าๆ ผิวใสๆ อย่างกะเด็กๆ สาวๆวัยหน่อมแน๊ม แบบ 20 ปลายๆ พวกเขาทำได้อย่างไร เห็นสายโหดเขาจะพูดๆถึง นวตกรรม E3 ไอ้พวก Photorejuvenation, eMatrix และ Sublime ไอ้การรวมตัวของสามอันนี้ ทำให้เน้นเรื่องการแก้ Wrinkle ในรูปแบบเฉพาะเจาะจง เดี๋ยวผมกำลังแปลบทวิจัยอยู่ ใช้เวลานานหน่อย แล้วจะมาปล่อยในบล๊อกครับ ส่วน บริบทเสริมที่น่าสนใจ คือเรื่อง Laxity หรือ การเหยี่ยวย่น ไม่กระชับ ของผิวบนใบหน้า สำหรับผมแล้ว เคยลอง ของดีๆ จัดหนักๆ ไปอย่าง เซรั่ม ของ ลาแมร์ ที่คุณแม่ใช้ คุณแม่แกชอบใช้เพราะว่ามันช่วยเรื่อง รอยเหี่ยวย่นได้ แต่ผมเอง กลับใช้ไม่ได้ผล เพราะ เป็นคนหน้ามัน ยิ่งใช้ มันก็ไม่ได้ ซึมซับ ระยิบ ในแบบที่เราหวังไว้

แต่ก่อนอื่น ต้องไม่ควรโทษสินค้า เราควรโทษตัวเราเองก่อน ที่มีพฤติกรรมผิดๆ เช่น การสูบบุหรี่จัดๆ ดื่มเหล้าเมาเบียร์เยอะๆ ทานของหมักดอง อูยย..วันก่อน ยังไปกินส้มตำลาบเป็ด สูตรของทางเชียงใหม่ ที่คุณแม่ซื้อกลับมา

ผมเอง ไม่ได้ทานผักสดมานานมากแล้ว ปกติสมัยเรียนที่มหาลัย ก่อนวัยทำงานประจำก็ทานบ่อยๆ เพราะมีเวลาออกไปเดิน Shopping กับเพื่อนๆ ไม่ต้องแบกรับเรื่องงานส่วนตัวเยอะ ไอ้ปีนี้สิ ดันใช้งานร่างกายหนักไป ความจริงทำงานแบบ โครตหนักมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว เพราะว่า ผมเอง แอบทำธุรกิจเสริม ศึกษาเรื่องต่างๆ ระหว่างทำงานประจำ และเวลาทำงาน ก็ทำโหดๆ เพื่อแลกวิชาดิบๆ

วิชาพวกนี้ ผมจะไม่เอามาจัดในงานสัมมนา และ จะไม่มีใครเห็น ว่าความลับ ต้องทำอย่างไร ?
กว่าได้ของดีๆมา มันเพาะบ่ม บางทีก็ขมขื่น แล้วเราคิดว่า ควรเอา ความลับ นี้ไปบอกใคร ?
อะไร คือความลับ และ คนจะมาคาดหวังอะไรจากเรา ก็ปล่อยไป ค่อยๆ มอบสิ่งดีๆ ให้แก่ ทีมงานที่เพาะบ่ม

สุดท้าย เขาจะค่อยๆ เติบโตในแบบให้เราเป็น แล้วเขาจะเข้าใจในสิ่งที่เราทำอยู่ ตอนนี้ ผมเอง อาจขาดการติดต่อ จาก HQ. เรื่อง จังหวะ Deal ทางด้าน Transaction ที่มาเป็นวินาที

ส่วนเรื่อง ผักและผลไม้ ไม่ค่อยได้แตะ เรามัวเอาเวลาไป อดหลับอดนอน แล้วก็เครียดกับงาน กับคน เพราะ การผลิตยังไม่พอกับการเติบโตของเรา ฉนั้น สิ่งที่ผมต้องใส่ใจในช่วงนี้ คือ ต้องแข็งใจเพื่อเลิกบุหรี่ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตในอนาคต และค่อยๆ หันมาออกกำลังกาย

ใช้ชีวิตที่ Balance มากขึ้น พักผ่อน นอนหลับ ให้ เพียงพอกับสิ่งที่สุขภาพเรียกร้อง ตลอดมา เราเอง ไม่ได้เป็นเครื่องจักร เหมือนสมัยที่เราทำงานหนักๆ ให้กับเว็บ E-Commerce ขนาดใหญ่

กินอาหาร Junk Food / Fast Food อย่างเบอร์เกอร์เยอะๆ

ตอนนี้ ความเสื่อมโทรม ต้องมองไปที่องค์รวม ในส่วนที่ผมยังคงมี พฤติกรรมการกิน ที่ไม่เหมาะสม นั่นยิ่งทำให้เราเสี่ยง เรื่องโรคมะเร็ง ผมเข้าไปอ่านแล้วใจหายใจคว่ำ เมื่อเห็นว่า ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคมะเร็ง ที่ผ่านประสบการณ์มาหลากหลาย และเขาได้พยายาม แนะนำเรื่อง ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับโรคมะเร็ง อ่านแล้วจึงเริ่มตระหนักได้ครับ อันนี้โดนเต็มๆ เป้นสาระเกี่ยวกับเรื่อง

ส่วนเรื่องสิว ที่เรากำลังค้นคว้าหาวิธีแก้ไข ผมมีแหล่งดีๆ ที่ทำการ Research อยู่ โดยมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ดีมากๆ เห็นใน Google Book. :: ในบทของ Cosmetic Dermatology ผมไปเจอตอนหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ในนั้นมี Fact เรื่อง 1540-nm erbium:Glass Laser, Erbium Droped Phosphate Glass Laser, คืออีกรูปแบบหนึ่งของช่วงคลื่น Mid-infrared Range ครับ โดยเทคนิคของมัน เน้นการยิงไปที่ intracellular water หรือส่วนของน้ำในเซลล์กล้ามเนื้อ ผลังจากที่ผม ทำการศึกษาและ research เรื่องการทำงานของ IPL มาสักระยะหนึ่ง ผมเข้าใจเรื่อง ช่วงคลื่นเลเซอร์ ที่ต้องให้ความสำคัญและระวังอย่างยิ่ง ในการศึกษาเรื่องนี้ให้ดี ก่อนการเลือกซื้อ IPL

ส่วน “Glass Laser” เป็นเลเซอร์คนละอย่างกับ IPL นะครับ อย่าจำสับสนกัน โดยที่น่าสนใจของ กระบวนการของ ช่วงคลื่น “1540-nm” โดยมี เม็ดสีของ เมลานิน จำนวนบางส่วน ได้รับช่วงคลื่นแสงนี้ เมื่อได้เปรียบเทียบ กับช่วงคลื่น 1320- และ 1450-nm ในระบบของการยิง เลเซอร์ แต่ที่ต้องระวัง และควรศึกษาให้ดี คือเรื่องผิวของเราเป็นประเภทแบบไหน ต้องศึกษาให้ดีก่อนครับ การเข้าไปยิงเลเซอร์เลย โดนอ่านโฆษณาผ่านๆ ดูแต่ราคาและโปรโมชั่น กลับมาหน้าแหกได้ครับ เนื่องจาก, เมื่อเราเข้าไป Clinic นั่นหมายถึงคุณรับ Fact หรือ ข้อเท็จจริงบางสิ่ง ที่คุณต้องรับผิดชอบเอง ว่าศึกษามาดีแล้ว โดยความซวยของคนไทย คือไม่มีแหล่งดีๆให้ศึกษา มีแต่โฆษณาขายของกันเยอะครับ

ข้อเท็จจริงสำคัญ เรื่องของ คลื่นเลเซอร์ชนิดนี้ อาจไม่เหมาะกับหน้าแบบผมก็ได้ เพราะเหมาะกับการดูดซับสีเมลานิน เป็นหลัก จึงเหมาะกับคนที่มีผิวพื้นฐานที่เข้มมากเฉพาะเจาะจงลงไปเลย ไม่น่าเกี่ยวกับการทำหน้าใสตรงๆ ฉนั้น การรักษา ด้วยเลเซอร์ เราจึงต้องศึกษาก่อนที่จะ เลือกทำมันลงไป เพราะ ค่าคอร์สราคาที่แพงมากๆ แบงค์พัน หกสิบใบ … !!

ค่อยๆดูแลความหมองใจ และหมองผิว ด้วยความรัก.

คุณแม่ผมชอบเชียร์ให้ผมไปยิงเลเซอร์ มาหลายรอบ แต่ตอนนี้ผมเน้นการทานน้ำผัก และดื่มน้ำใบบัวบก ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรมากเป็นบางส่วนของความเชื่อส่วนตัว
ผมยังศึกษา เรื่องแนวทางตามธรรมชาติอยู่ แล้วเรื่องการดูแลผิวส่วนตัว ตอนนี้ยังไม่กล้าเอายาอะไรมาป้ายหน้าตนเอง เพราะผิวแพ้ง่าย หน้ามัน เป็นผิวที่ยากต่อการดูแลอยู่แล้ว ตอนนี้ได้แค่ กระบวนการ เยียวยาแบบประคับประคอง ค่อยๆ ลดการทานอาหารที่เป็น Fast Food แบบรัวๆ หันมาทานข้าวฝีมือคุณแม่ ที่อร่อย ที่สุดครับ เพราะแม่จะชอบใส่ผักเยอะๆ ผักสดๆ จิ้มน้ำพริก ตอนนี้ถึงหน้าเราจะหมองคล้ำไร้ราศี แต่ก็ยัง มีสีของความสดใสอยู่ เพราะการบำรุงเล็กๆน้อยๆ เลยอยากให้ ท่านที่ศึกษาเรื่องปัญหาผิวพรรณ ความแก่สูงวัย ให้ค่อยๆ ประคับประคองตนเองให้ดีครับ มันยังมีทางแก้ไขได้ และสิ่งสำคัญของผม คือการเลิกบุหรี่นั่นเอง ทำตรงนี้ให้ได้ เดี๋ยวสิ่งดีๆจะมาเองครับ

[Update 2023/07] – ตอนนี้ก็ยังสูบบุหรี่ Mild Seven Light อยู่ แต่ผมก็สนใจที่จะลองดูด POD ดูครับ

เงิน – ร่ำรวย – Value ซ่อนอยู่ตรงไหน ?

ทองคำ มีซ่อนอยู่ในทุกที่ มันคือ ส่วนผสมของ โอกาส และ Time

หลายคน โครตรีบเร่ง, แต่ก็ไปไม่ถึงไหน เพราะ เราเร่งตาม Trend. บทความนี้ ได้แรงบันดาลใจ การแง่คิด และ นำไปปฏิบัติจริงจังมาสักระยะหนึ่ง เราได้มองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ ใน เวลา และ โอกาส ผลงานเขียนชิ้นนี้ ค่อนข้าง Abstract. คนที่มีประสบการณ์ คล้ายๆผม จะรู้ได้เลย ว่าสิ่งที่ผมพูดถึง ตรงนี้ หมายถึงอะไร.

เปลี่ยนไร่มัน ให้เป็น เหมืองทองคำ

ขุดมันฝรั่ง แต่พบว่า ไร่มันฝรั่ง ที่เราขุด กลายเป็น เหมืองแร่ทองคำ

ประสบการณ์ องค์ความรู้บางอย่าง เป็นเรื่องยาก ที่คนทั่วไปจะเข้าใจ, ธรรมชาติ สร้างให้ คนประหลาด ได้รับ สิ่งประหลาด และได้เข้าถึง อะไรที่ประหลาด
Outputs ประหลาดๆ ออกมาจาก การกระทำ ที่เฉพาะตัว ผิดแผลกออกไปจากกระแสหลัก เมื่อชนะแรงต้าน และเห็นปัจจัย ที่เป็น อนุภาคเล็กๆ ระดับ เมล็ดทราย

เขาผู้นั้น ย่อมได้รับ รางวัลจากธรรมชาติ

 

 

ทองคำ ซ่อนอยู่ในหัวมันฝรั่ง (Gold in the Potatoes)

ไม่มีใครรู้เลยว่า เราแอบขุดเหมืองแร่ทองคำ ในขณะที่คนอื่น ยังไปร่อนเมล็ดทราย ในต้นแม่น้ำ ด้วยความเชื่อ ที่โดนหลอกๆ ต่อๆกันมา

คนหลอก ก็จะเก็บค่าวิชา ไปเรื่อยๆ
ท่านว่าจริงไหม ? เคยสัมผัสไหม วงการ เรื่องการเงิน    — ทำไม ? นักลงทุนจอมปลอม ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ จึงมักมีชื่อเสียง พอๆกับตัวจริง ??

Trick ที่ โครตง่าย พวกเขารู้ว่า มีคนโง่ ในระบบ ธรรมชาติ 95% และมีคนรู้ทันเพียง 5%
จึงเป็นที่มาว่า ทำไม โลกเรา ไม่เท่าเทียม — เนื่องด้วย เราอยู่ในข้อจำกัดของคำว่า เวลา และ โอกาส
สิ่งที่มนุษย์ ขาดแคลน คือ เวลา และ โอกาส

โอกาสต่างๆ เช่น โอกาส การเข้าถึงปัจจัยการผลิตต่างๆ ในสมัย การปฏิวัติ อุตสาหกรรม
หรือ โอกาส ในการเข้าถึง กระบวนการ การศึกษา ที่มีคุณภาพ
โอกาส ในการ รับการเลี้ยงดูที่ดี จากสถาบันครอบครัว
โอกาส ในการได้รับ สวัสดิการ ทางสังคม และ ทางรัฐ ตาม สิทธิพื้นฐานของพลเมือง

โอกาสเหล่านี้ มาจาก ปัจจัย ทรัพยากรณ์ ที่เรียกว่า “เวลา”

อะไรหล่ะ แปรรูป ให้เกิด เวลา และ โอกาส

มันคือ การต่อรองที่ดีกว่า (Better Offer & Power Of Negotiation)
การต่อรองที่ดีกว่า มาจากรากเหง้า ของวัฒนธรรมชนเผ่า ที่มีมาจากรากเดิมโบราณ ที่สืบสานมาต่อเนื่อง ยาวนาน นับเป็น พันปี
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า เฮอริเทจต์ ผมอาจจะสดผิดเลยขอเขียน ไทยปนอังกฤษ เป็นไทย ให้ดู ศิวิไลมังค่า ไปบ้าง ไม่ว่ากันนะครับ

ทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดของมนุษย์ คือ ประสบการณ์ (Experiences)
เมื่อเราขาดประสบการณ์ สิ่งที่ตามมาคือ ขาดอำนาจต่อรอง และ ทักษะการแปรรูปทางทรัพยากรณ์

เราจึงเห็น การแย่งชิง ฆ่าฟัน การรบ และ ปัญหาทางสังคมตามมา
คน กับ ลิง คล้ายๆกัน

 

ต่อมา เมื่อเรามองเห็น โอกาส จึงทำให้มันเป็นความลับ โดยเฉพาะ เมื่อเราค้นพบ เหมืองแร่ ที่ซ่อนอยู่ในไร่มันฝรั่ง

มันฝรั่ง

นี่จึงเป็นที่มาของบทความนี้ครับ ขอให้อ่านเพลินๆ เป็นนิทาน เพราะ รายละเอียด มันคือ ความลับ ไม่สามารถเผยแพร่ได้

การอยากล่วงรู้ความลับ ผมอยากได้ คนที่อ่าน บทความนี้ จำนวน 10,000 คน แล้ว มี หลงๆ วนเข้ามา พบผมโดยบังเอิญ

ตามรอย เรื่อง งานเขียน ที่ผมซ่อนอยู่ในบลีอกแห่งนี้ ผมคัดกรอง คนที่มีประสบการณ์ คล้ายๆกัน เพื่อเปิด Deal ลับๆ ที่เรา เข้าใจกัน

 

ผมไม่เคยเก็บเงินค่าสัมมนา อยากให้ Channel เล็กๆ ที่เรียกว่า Transaction ลับๆ ที่กำลังจะทำเงิน มหาศาล ใน 5 ปีนี้ ค่อยๆเป็นไป

ผมเข้าใจดีกว่า เมื่อเจอ เหมืองแร่ ทองคำดีๆ จากสวนมันฝรั่ง ขุดไปเรื่อยๆ สักวันนึง มันจึงหมดไป

 

ทำอย่างไรหล่ะ ?? ก็ ดีลตรง กับคนที่มี ไร่มันฝรั่ง สิครับ

แล้ว ค่อยๆ ตรวจสอบ ว่าเขานั้น มี Criteria เหมือนกันไหม ?

ใช้อะไรหล่ะครับ ?

 

ก็การทำงานร่วมกันไง

จึงเป็นเรื่อง ของ เวลา และ อำนาจต่อรอง

 

การ ต่อรอง ทางการฑูตในรัฐ ต่อ รัฐ ใช้ การฑูต คือ Deal ลับๆ ทาง Bank คือ Compliance ระดับ 5 ซึ่ง มากกว่า Top Secret!

อย่าให้ เจ้าของ ไร่มันฝรั่งรู้ว่าเขามีเหมืองแร่ทองคำซ่อนอยู่

สิ่งที่เราต้องทำต่อมาคือ นำปัจจัยการผลิต เข้าไป แทรกซึม ใน ไร่มันฝรั่ง

แล้ว Propaganda.

เมื่อกระแสมา ให้รีบกวาด แล้ว ทำ Multiple Deals.

 

 

ต่อไปแผนสองหล่ะ ทำอย่างไร ?

นายทุนสิครับ หามาถือ

อย่าไปขาย Sharing แค่ Share

แล้ว ปล่อยให้ Operation RUN….

 

แห่ไปปลูกมันฝรั่ง โดยเชื่อว่ามันจะมีทองคำพวกมองหยาบๆ ตอนนี้ มันไปลงทุนอีกฝั่ง แม่งแห่กันไปปลูกและสร้าง ไร่มันฝรั่ง

ปลูกมันฝรั่ง ทั่วภูมิภาค – ด้วยความฝันที่ว่า ปลูกมันฝรั่ง แล้วจะกลายเป็นเหมืองแร่ทองคำ

โลกแห่งความจริง ไร่มันฝรั่ง กับแร่ทองคำ ไม่ได้เกี่ยวกันเลย

สิ่งที่ relate กัน คือ เมล็ดทราย และ สารประกอบชนิดหนึ่ง มักมาเจือปน หรือปนเปื้น ในดิน ที่ปลูกไร่มันฝรั่งในแบบที่เราเคยพบ

เทคนิคนี้ เมืองนอก ใช้ข่าวลือกระตุ้น แล้วเอาปัจจัยมากวาดกลับไป เขาจะมาดีล เรื่อง ไร่มันฝรั่ง ก็คล้ายๆ กับ ฟาร์มโซล่าเซล์

ความสำเร็จ ไม่ใช่ การทำฟาร์มโซล่าเซล์แล้วจะได้เงิน สมการคือ Process ที่ Efficiency ในจุดที่ผ่านแรต้านของต้นทุนและความเสี่ยงของ Weather แล้วจะทำให้ Area นั้น ทำกำไร.

คนหมดเงิน หมดตัว เพราะแห่ไปทำฟาร์มโซล่าเซล์

คนรวยจริงๆ คือ คนขายปัจจัย และ Re-Invest ใน Area ที่ปลอดภัย, ข่าวลือความสำเร็จ มักไปไวแล้วไปก่อนอยู่แล้ว แต่ ข่าวที่เป็นจริงเรื่องว่า ไร่มันฝรั่งทุกไร่ ไม่มีทองคำ มักไม่ถูกพูดกล่าวถึงครับ

อันนี้ไม่ได้ โจมตีเรื่องธุรกิจ โซล่าเซล์นะครับ ยกตัวอย่างมาจากเมืองนอก ในเมืองไทย นิยมทำกัน และแดด ดีมาก ไม่มีปัญหา แนะนำให้ทำต่อๆไปครับ

และผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจ โซล่าเซล์ครับ นิทานเรื่องนี้ เปรียบเปรย เกี่ยวกับ channel ที่เกิดขึ้นแบบวินาที ที่ผมพยายามจะหมายถึง ความลับคือ ทุกๆ millisecond มี transaction จำนวนมากๆ เกิดขึ้น นั่นแหละ time. และโอกาส เราดัก 0.001% ของ ทุกๆ Millisecond ในนั้นได้ ด้วยตาข่ายเล็กๆ ได้หยดน้ำของ value มาก้สบายแล้วครับ ไม่ต้องคิดใหญ่ หัดคิดเล็กๆ แต่เวลาใครถาม ให้หลอกพวกเขาในหน้าข่าว และสื่อว่า “ทำสิ่งใด ต้องคิดใหญ่ๆ” 

 

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

  • เวลาทำจริง คิดให้เล็กที่สุด
  • เวลาออกสื่อ ให้บอกว่า คิดให้ใหญ่

หลอกคน 95% หลงทางไปทำอีกแบบ แล้วคุณมาทำอะไรเล็กๆ กินในสิ่งที่เขาไม่ได้ให้คุณค่า 

 

โลกแม่งย้อนแย้ง และ ตลกไหมครับ – คิดใหญ่ๆ ใครคล้อยตาม ก็ตกเหว แล้วฟุ้งซ่าน แห้งเหี่ยวตายกันไปหมด

การออกสื่อ ของคนรักษาความลับ ให้เราพูดออกไปอีกด้าน ไปคนละทิศไปไกลๆเลย

ไอ้พวก 95% มันจะได้เป็น Observer ให้เรา แล้วเราก็ทำการ Detect มูลค่า ที่ซ่อนอยู่ จาก หน้า Monitor ของเรา…

 

ตกลง เราต้องการ ไร่มันฝรั่งหรือเปล่า ???

 

คำตอบ คือ ไม่ใช่

 

เราต้องการอะไรจากไร่มันฝรั่งเหล่านั้น

คำตอบคือ

ในดินเหล่านั้น ซ่อน ปัจจัย ของ สินแร่ทองคำหรือเปล่า ?

 

กระบวนการทั้งหมดนี้ รู้แค่ คน 1 คน

เจ้าของ ไร่มันฝรั่ง และ นายทุน ทั้งหมด ไม่รู้อะไรทั้งหมด

ไม่รู้ว่า เมล็ดทรายเล็กๆ ชนิดหนึ่ง ที่เรา บังเอิญไปค้นพบ คืออะไร ?

การ ดีลแบบลับๆนายทุน และ เจ้าของไร่มันฝรั่ง ต่างเอาด้วย ในไพ่ที่เราเปิด

แชร์ผลประโยชน์ ให้พวกเขา แล้วคุมตลาดให้อยู่

 

กระแส คือ ความเชื่อ ได้ก่อขึ้นแล้ว

คนบ้า + โง่ 95% ในโลกนี้ ได้บ้าบอ ปลูกไร่มันฝรั่ง แต่ทุกที่นา เพราะเขาเชื่อว่า มันมีเหมืองแร่จริงๆ

 

โลกใบนี้ ไม่ยุติธรรม กับคน 95% ที่เดินตาม Trend.

 

เวลา และ โอกาส คือ อำนาจต่อรอง

อำนาจต่อรอง อยู่กับเราเรื่อยๆ เมื่อมันเป็น Compliance ระดับ 5

 

 

สิ่งที่ต้องระวังขั้นสุดท้าย

แอบมอง

มักมีคนอีก 5 % แอบมองคุณอยู่ 

รักษา อำนาจต่อรองให้ดีๆ

 

สำหรับ คนทำงาน Bank ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน อาจได้ฟังว่า Compliance มี 4 ระดับ 
โลกอีกใบหนึ่ง มันอาจมี ไปถึง 13 ระดับ 

และ โลกใบนี้ มีความลับอีกมากมายหลายระดับ ที่ชนชั้นธรรมดาอย่างเราไม่รู้ ต้องเดาๆกันเอง

ตำนานสยอง และคำว่า Occult และ อาถรรพ์ ในโลก

ไหนๆ ผ่านวัน “ฮาโลวีน” มาหมาดๆ ขอเขียน แนวสยองขวัญ สั่นประสาท ให้พวกนิยมลองของ
คนที่ศึกษา แนว Occult มาสักระยะ ในเชิงปรัชญา และ สิ่งลี้ลับ ของโลกใบนี้ อาจจะมองเห็นอะไรแปลกๆ
ถ้าพูดเรื่อง สิ่งเร้นลับ อันนี้ ผมสามารถพูดได้เป็นวันๆ เพราะ ศึกษามาทางด้าน “Sociology”

 

สิ่งที่เป็นแรงกระตุ้น และ เขียนเรื่องนี้ เพราะ ติดตามข่าว เรื่อง Isis มาสักระยะ พยายามค้นคว้า ตำราโบราณ และ ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ของโลกใบนี้
เมื่อวันก่อน มีคนบอกผมเรื่อง การก่อการร้าย ของ กลุ่ม Isis. ตรงนี้ ผมไม่อยากกล่าวว่าเป็น ชาว มุสลิม ทางบ้านเราเอง ก็มีพุทธแท้ และ พุทธโธ่ UFO หรือลัทธิจานบิน อะไรต่อมิอะไร

เรื่องศาสตร์ของความเชื่อ เขียนแล้วจะยาว แล้วอาจจะมีประเด็น เลยไม่อยาก วิเคราะห์ ในประเด็นเหล่านี้

 

เอาเป็นว่า ผมขอพูดใน scale ของ timeline ที่ก่อนจะมีความเชื่อ แตกแยกจนเป็นระบบ ศาสนา , ท่านผู้อ่าน ที่มีศาสนา และ รู้สึก หรือ มีนิยาม ทางหลักการการใช้ชีวิต ที่เป็นไปตามศาสนาในกรอบความเชื่อ ที่เป็น ปัจจุบัน — ผมขอให้ ใช้สติ ในการ อ่านบทความนี้ แล้วไม่ต้องเชื่อทั้งหมด — ให้ไปค้นคว้าเอง ว่า ส่วนผสม และ วิวัฒนาการ ของ เรื่องราว ต่างๆ ที่ผมจะเล่านี้ มีนัยยะ และ เกิดอะไร หรือ มีความเป็นไป อย่างไร ลองพิจารณาดูกันครับ

เรื่อง อาถรรพ์เรื่องแรก – สำหรับคนที่ รู้สึกว่า โลกใบนี้ มีสิ่งชั่วร้าย หรือ พลังชั่วร้าย วนเวียนแฝงตัวอยู่
คนที่เชื่อ เรื่อง โชคลางค์ ลางร้าย หรือ เชื่อเรื่อง เจ้ากรรมนายเวร ก็คงมีความรู้สึกนึกคิด เกี่ยวกับพลังแฝง เร้นลับ เหล่านี้
สิ่งที่เรา วิเคราะห์ เท่าไหร่ ก็ก็ไม่เข้าใจ ไม่เกิดความแจ่มแจ้งถ่องแท้ เรามักจะเกิดความกังวล (Anxiety) และ ตื่นกลัว กับสิ่งรายรอบตัวเรา

ผมเองก็เป็น เมื่อดูหนังผีในโรงหนัง ผมชอบไปดูหนัง ที่สิงคโปร์ เพราะว่า มันมีโรงหนัง ที่ให้บรรยากาศของโรงหนังได้ดีกว่าในบ้านเรา หลายเท่าตัวนัก
เรื่องสุดท้ายที่ไปดูมา ก็ตุ๊กตาผี Annabelle: Creation และ เรื่อง IT หนังสยองแนว จิตๆ

 

ซาตาน

สิ่งชั่วร้าย หรือ ความรู้สึกว่า ในโลกนี้ มี ปิศาจ ผมได้ ไป research เกี่ยวกับ ตุ๊กตา (รูปปั้น) ซาตาน หรือ “Satanic Statue” สิ่งนี้มีที่มาที่ไป ที่ยาวนาน และอาจยาวนานกว่าที่คุณคิด ก่อนที่จะมีศาสนาแรกๆ เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ตอนเป็นเด็กๆ แม้เป็นคนที่อยู่ใน สังคมที่มีกรอบความเชื่อ เรื่อง พุทธ และ ใกล้ชิดกับความเชื่อลึกๆ รากเหง้าของไทย คือ ผี และ ฮินดี กระนั้น ตอนเด็กๆ ก็เคยได้ยินคำว่า ซาตาน และ คำขู่เข็ญจากผู้ใหญ่ ที่พอจะรู้เรื่อง ซาตานพวกนี้ ก็กล่าวว่าเป็นสิ่งเร้นลับ ชั่วช้า และชั่วร้าย จนตอนนี้ ก็อายุ 30 แล้ว ยังไม่แน่ใจชัดนัก ว่า ซาตาน คืออะไร

 

เมื่อยามอยู่มหาลัย ได้เรียนร่วมกับชาวคริสต์ และ ต่างศาสนาหลากหลายชาติพันธุ์ ทำให้ กรอบของ วัฒนธรรมไทย ได้จางลงบ้าง เราได้ศึกาามิติของความคิด ทั้งจาก เด็กเหล่านั้น และจากผู้ใหญ่ ที่เป็นนักธุรกิจ นักกฏหมาย ทนายความ และ คนที่จับต้องเรื่อง เงินๆทองๆ และ ใครบางคนที่ ขับรถ ทะเบียน ดอ เด็ก ผ่านตำรวจ ในแบบที่ต้องเข้าใจกันว่า ต้องเกรงใจ และเป็นที่รู้กันในสังคม ว่าเป็นของ คนที่ มีอะไร ที่อย่าไปขางทางพวกเขา.

 

ยิ่งโตขึ้น ยิ่งเห็นโลก ที่ เป็นอีกแบบหนึ่ง และ ออกจากกรอบ ความคิดจากสื่อกระแสหลัก เริ่มเห็น รอยแยก อะไรบางอย่าง ที่เราไม่มีโอกาสได้แง้มเข้าไปดู

เมื่อเรา ได้มองย้อนกลับไปดู คนไทย ด้วยกัน ที่ยังอยู่ใน รากเหง้าทางความคิด เราจะมองเห็นกรอบความเชื่ออะไรบางอย่าง

 

กรอบความเชื่อ เหล่านั้น ที่เรา มองว่ามันเป็นของสูง แท้จริงแล้ว เราไม่อาจรับรู้เลยว่า อะไร คือ เส้นขอบ ของ ซาตาน และ อะไร คือเส้นขอบ ของ อิสระ และ ความชัดเจน

 

จนเราเริ่มมามองเห็น ในช่วงปีหลังๆ มีคนสาย Alternative ที่คิดว่า ไปอยู่ในต่างประเทศมาสักระยะ แต่ศึกษา ธรรมะ พุทธแนวสุญญตา หรือแนว “ช่างแม่ง” หรือแบบที่ผม นิยามง่ายๆ ประมาณ คำว่า “Zen” ว่าง ปล่อยวาง

 

กลายเป็นว่า Zen และ ซาตาน และ ลูซิเฟอ รวมไปถึง จักรวาล และ ความว่างเปล่า มาจาก หลักคิด ใกล้เคียงกัน

จนผ่านไปสักระยะ เราก็ได้เรียนรู้ คำบางคำที่เห็นในหนังแนวศาสตร์ หรือหนังแนวล่าแม่มด เรียก คนที่นอกศาสนา ทางฝั่งยุโรป ในสมัยก่อนว่า “พวกนอกรีต”

คำนี้ รู้สึกจะเห็น แรกๆ เมื่อดูหนังเรื่อง “Brave Heart” กล่าวถึงพวกนอกรีต อย่างเหยียดหยาม และ พิธีกรรมทางสัญลักษณ์ อะไรต่างๆ ไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียด สิ่งที่ผมสัมผัสได้ แว่บแรก ทำให้ ผมเข้าใจความเชื่อมโยง ของระบบความเชื่อต่างๆ ทั่วโลกใบนี้ รวมทั้ง อาการทางจิต ของพวกที่มีความหลงผิด ที่เป็นเรื่อง บุคคลิกเจาะจงประเภทหนึ่ง ที่คนไทย เป็นกันเยอะมาก คือเรื่อง คิดว่าตนเองเป็น Hero หรือ มักคิดว่าตนเอง เป็นผู้ถูกเลือก ถูกคัดสรรจาก พระเจ้า หรือ เทวดา

คนไทย จึงบ้าเรื่อง ดวงชะตาไงครับ 

 

กลายเป็นว่า คนใช้ชีวิต ปกติในประเทศไทย ต้องโดยเส้นขอบ ชนิดหนึ่ง ที่ขีดให้ คนที่ไม่ได้ เดินตามกระแส ต้องการมาเป็นคนขวางโลก

ซึ่งแปลกนะ ผมว่า ผมไม่ได้ขวางโลก เพียงแต่ มีคนพวก ลัทธิ อัตตา สูงๆ มักคิดว่าตนเอง ต้องเป็นผู้ถูกเลือกโดยสวรรค์ คอยบีบบังคับให้เราต้องพยายามทำอะไร ตามๆพวกเขา

โตมาเรื่อยๆ ก็พบว่า เรื่องการทำนายทายทัก เรื่องโหราฯ พยากรณ์ ล้วนเป็นเรื่องการจัดตั้ง การสร้างอิทธิพลทางความคิดทั้งนั้น และมีการข่มขู่ให้เรากลัว ด้วยการ ทำนายในเรื่องร้ายๆ หากคุณ หมิ่นประมาท หรือ ไม่ได้ Respect แบบเชื่อโดยบริสัทธิใจ — ในต่างประเทศ สามารถเอาผิด ทางอาญาได้ครับ หากมีการใช้ Social Sanction ด้วยการ อาฆาตร และ ปลุกปั่นความเชื่อ ให้คนชิงชัง ด้วยวิธีสกปรกพวกนี้

แต่ผมมักจะเห็น คนไทย ที่ บ้าพุทธ แนว ไสยะ บ้าหวย บ้าดวง บ้า บารมี พวกนี้ บ้าๆทั้งนั้น แล้ว พยายามยัดเยียดความบ้าสุดโต่งพวกนี้ มาให้คนอื่นเชื่อตาม

 

 

นอกจาก บ้าเรื่อง ดวงชะตา ก็บ้าเรื่อง หวย และ งมงายมากๆ

ที่เหนื่อยใจที่สุดคือ ทำงาน องค์กรใหญ่ๆ เราจะเจอ พวก มนุษย์เงินเดือน คุยเรื่อง การเสี่ยงพนันขันโตก ด้วยการซื้อหวยใต้ดิน การพนันไร้สมอง ไร้สาระที่ผมไม่คิดจะยุ่งมันเลย แต่ที่น่าเบื่อหน่าย คือ จะมีแก๊งเจ้าถิ่น ในองค์กรใหญ่ๆ มัก อวดภูมิด้วยการคุยเรื่องหวย ว่างวดนี้ออกอะไร ถ้าใครไม่มาคุยเรื่องพวกนี้ คุณจะค่อยๆ กลายเป็น คนนอกวงการ ในสังคมปัญญาอ่อนพวกนั้น

ทำงานที่ต่างประเทศ ไม่มีใครคุยเรื่องนี้ครับ เป็นเรื่องน่าอายเสียด้วย ไม่ใช่เรื่องอวด

คนไทย มีปากไว้พล่าม มี บารมี “ห่วยๆ” ไว้อวด เพราะ จะว่าไปแล้ว คนพวกนี้ ด้อยโอกาส แล้วเหมือน อยากพยายาม พิสูจน์คุณค่าอะไรบางอย่าง ที่เขาพยามให้เรามองเห็น

เมื่อมีเวลาว่างๆ จากการทำงานหนักๆที่ประเทศไทย ผมมักจะไป เยือนประเทศสิงคโปร์ (โดยมีพี่ๆ ที่ช่วยเหลือเรื่องหาที่พักในสิงคโปร์ อย่างไว้ใจได้)

ในประเทศ เล็กๆ ที่อยู่ติ่งๆ ในแผนที่โลก เมื่อเราไปสัมผัส กลายเป็นอีกโลกหนึ่ง ที่ไม่ได้ คลั่ง ในกรอบประหลาด แบบประเทศไทย เราเจอวัฒนธรรม ที่เป็นเบ้าหลอม มาจาก ความเชื่อ ความงมงาย ที่เป็นรากเหง้าของเรา และ ขุดออกยาก ผมคิดว่า สังคมไทยๆ ต้องใช้เวลาเพาะบ่ม ขัดเกลา ความบ้าคลั่ง สิ่งนี้ ออกไปอีกนานมากๆ ผมคาดว่า มากกว่า 200 ปี.

กลับมาที่เรื่องหลัก เรื่อง ซาตาน และ อาถรรพ์ ที่เราพบเห็น

ผ่านวัน ฮัลโลวีน หรือคนไทยมองว่าเป็นวันปล่อยผี เมืองนอก หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว ก็มาขอบคุณผี ลืมบอก Keyword หนึ่ง คำว่า นอกรีต หรือ ศัพท์เดิม คือ “Pagan” เป็น Cult โบราณ และเป็น วิถีปฏิบัติต่อๆกันมา

เรื่องของหนัง ก็ยังเป็นเรื่องแต่ง ที่เอาเค้าโครงของอดีต และ เอาระดับพื้นฐานความรู้ของทีมที่ทำขึ้นมา บังเอิญ ไปเจอ บทวิจารณ์ หนังเรื่อง “Brave Heart” ที่เขากล่าวเรื่อง นอกรีต หรือ Pagan ซึ่งคำพวกนี้ ในวงการ คริสต์ ได้ นำเอา เรื่อง ซาตานเข้ามาผูกโยง และ มีตำนาน เรื่องเล่าขานอย่าง ลูซิเฟอร์ เทวดาตกสวรรค์ อะไรพวกนี้ จะขอเก็บเป็นการบ้าน ไปทำ Research และจะมาเขียนให้ในนี้ครับ

 

แต่ขอ deep ไปที่ Brave Heart ก่อน หนังเรื่องนี้ มี Error ในเรื่องของ Plot 

แหล่งที่มา ของ research

Braveheart Errors: An Illustration of Scalehttp://medievalscotland.org/scotbiblio/bravehearterrors.shtml
Braveheart: the Historical Movie that Isn’thttp://blog.cnbeyer.com/tv-and-movies/braveheart-the-historical-movie-that-isnt/

Longshanks กษัตริย์ เรื่อง Brave Heart

 

หนังทุกเรื่อง มีข้อผิดพลาด ใน Plot, ที่ขอข้ามเรื่องนี้ไปครับ หาแหล่งอ้างอิง เพื่อมา พูดประเด็นเรื่อง Pagan และจะได้กลับมาโยงเรื่อง การก่อการร้าย และ เรื่องของ ความเชื่อ จำทำให้เกิด สงคราม ลัทธิทางการทหาร การแย่งชิงทรัพยากรณ์ และ เหตุการณ์ การโจมตี ของกลุ่ม Isis ในอเมริกา เมื่อวานก่อนนี้ ล้วนมาจาก ความเชื่อมโยง ของปมความขัดแย้ง ทางความเชื่อของคน และ เป็นจุดเล็กๆ เท่านั้น จนเป็นปัญหาเรื้อรังไม่สิ้นสุด ซึ่ง สาเหตุและปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ผม เข้าใจ งานโปรเจคใหญ่ๆ ที่ผมได้รับหมอบหมายมา และ ทำให้มันดีที่สุด สำหรับท่านที่ กำลังสนุกกับการเก็งกำไร และศึกษาเรื่อง Transaction ที่เกิดขึ้นยึบยั่บเป็นวินาที อย่างในบทความที่ผ่านมา :: เก็งกำไร – ค่าเงิน และ โครงการลับๆ ในโลกลับๆ ที่ค่อยๆศึกษา

 

ถ้าเรา ในฐานะ นักลงทุนและนักเก็งกำไร : เราต้องเข้าใจเรื่องความเชื่อ ใน DNA ใน Mental ของมนุษย์ และ เชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวเหล่านี้ ติดตามบางอย่างที่ผมพยายามจะสื่อ , ผมมีเหตุผล ว่าทำไม ผมต้อง กล่าวเรื่อง Pagan หลังวัน Halloween ที่ผ่านมา เพื่อเป็นนัยยะ ให้คนที่เข้าใจ และ Moment ในช่วงที่จะเกิด จะเป็นอะไรตามมา

เรื่องของ ซาตาน มีหลายอย่างในบทความนี้ที่เขียนลงไปไม่ได้

อันแนวคิดง่ายๆ แบบคร่าวๆ คือเรื่องของ ความรู้ระดับสูง 3 ตำแหน่ง คือ สิ่งดี และ สิ่งชั่ว [Citation] เส้นขอบ ของการกำหนด สิ่งใดชั่วร้าย และดีงาม กระบวนการสร้าง Norm ทางสังคมนั่นเอง เป็นเรื่องของ จิต , สมัยใหม่ เราเรียน จิตวิทยา เป็น วิทยาศาสตร์มากขึ้น ทำให้ โลกเรา เริ่ม ซิวิไลซ์ มากยิ่งขึ้น ทำให้เรามองเห็น การโกหก หลอกลวง ของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เพราะเขารู้จุดอ่อน และเล่นกับความโง่งมงายของคนในชาติ

เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ , และ เราแต่ละคน ต้องหาช่องทางเอาตัวรอดเอง

การสวดมนต์ ไหว้พระ ไม่ได้ทำให้ จิตใจเราสูงส่งขึ้นเลย หาก ขาดสติ และ งมงาย และหวาดกลัว กับขอบเขตต่างๆ โดยไม่ได้ พิจารณา อย่างแท้จริง.

 

 

 

Cold War Era Repression ในบริบท การเมือง สังคม และ เงิน

วันที่ 27 ตุลาคม 2560 – หลังจาก “วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ”

ทำให้ผม เห็น สิ่งที่น่ากลัว ที่ยังครุกรุ่น ในสังคมไทย ที่มาพร้อมกับความอาลัยอาวร และ หลายๆ คนรู้สึก โหวง-เหวง หรือเรียกสั้นๆ ว่า เคว้ง.

แต่ทำให้เรานึกย้อนกลับไปช่วงยุค 80-90 ในสมัยที่ผมเพิ่งเกิดมาลืมตาบนโลกใบนี้ และ ยังไร้ประสบการณ์ จวบจน ปัจจุบัน ก็ค่อยๆ เข้าไปศึกษาประวัติศาสตร์ ที่เกิดขึ้นทั้งโลก

สิ่งแรก ที่ผมนึกถึง คือเรื่อง ความซึมเศร้า และ เห็นพฤติกรรม ซึมเศร้า ของ สังคม ที่ ทุกคน เกิดอาการซึมเศร้า ไปใน Pattern เดียวกัน

ทำให้นึกถึงคำๆแรก ที่เป็น ปรากฏการณ์ทางสังคม ที่ผมน่าจะฟังมาผ่านๆหู ตอนช่วงปี 2009 มีอาจารย์ ทางด้านนิเทศ ได้เอ่ยถึง คำว่า “Dramatic Reaction”

คำๆ นี้ หาใน Google ไม่มีแหล่งที่มา, อาจารย์ ทางนิเทศน์ ไม่รู้ว่าเอามาจากไหน ไม่เห็น ใน Paper หรือ Journal ใน Google หรือแหล่ง ที่มาที่ชัดเจน

การบรรยายในปี 2009 ได้กล่าวเรื่อง “Drama Reaction” ซึ่งเป็น อิทธิพล ที่ส่งผ่านไปสู่สังคม และ ทำให้เกิด ความคิด ความรู้สึก ในลักษณ์ เดียวกัน พร้อมๆกัน เหมือนปรากฏการณ์

ใน ช่วง วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 23 ผมได้มีโอกาส เข้าไปในเมือง และเห็นกระแส ครุกรุ่น บางคนเคร่งเครียด บางคนเศร้าโศก เวทนา อย่างเห็นได้ชัด หลายๆคน มีสีหน้าสิ้นหวัง

ผมจะไม่วนเข้าไปเรื่องการเมือง แต่บทความนี้ ขอสืบค้นที่มาที่ไป เรื่อง Drama Reaction และ Citation ที่น่าจะใหล้เคียง และนำมาศึกษา ความเป็นมา และ อะไร ต่อมิอะไร ที่ผม อยาก Observe และ เข้าใจมัน

ก็เลยไปเจอ : Thailand’s Assembly of the Poor: background, drama, reaction Chris Baker – South East Asia Research Vol. 8, No. 1 (MARCH 2000), pp. 5-29 [Citation] ทำให้ผมเจอคำค้นที่น่าสนใจตามมา คือ “Cold War era repression” ก็เลยนำมาเรียบเรียงใน บทความนี้ครับ

 

อย่างใน Soviet ยุคสงครามเย็น เห็นมีบทความ ใน wiki เขียนเกี่ยวกับ Political repression in the Soviet Union ผมขอสรุปคร่าวๆ หากสนใจ ให้ไปหาอ่านตามลิงค์ได้เลยครับ

เหตุการณ์ ตุลา 30 – The Gulag Memorial, และหลายๆปรากฏการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามเย็น ที่เป็น เหตุมาจาก ช่วงยุคก่อน ตั้งแต่สมัย สงครามโลก ครั้งที่ สอง เช่น เรื่อง “Kolkhozy” เรื่องของที่นา การเพิ่มผลผลิตจำนวนมากๆเพื่อ ประชากรในชุมชนเมือง อันนี้ล้วนแต่เกี่ยวพันกับ Economic (ในส่วนของ Collectivization) ซึ่งในยุคนั้น เมืองต้องการผลผลิตมาป้อนการบริโภคที่สูงมากๆ จนเกิดกระแสต่อต้าน Collectivization Policy

ผมเขียนถึง Soviet เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจนะครับ ว่า ในยุคนั้น เรามีเหตุผล ในการ Block การขยายอิทธิพล ของ คอมมิวนิสต์
ประเทศไทย โดนล้อมด้วย “แดง” ลองเข้าไปอ่าน ว่า ไทยเรา รอด และ ที่ต้อง รอดนั้น เรารอดจากอะไร ?

อุดมการณ์ มันเรียนรู้ และ สร้างกันง่าย แต่ถ้าเราไปศึกษา ข้อเท็จจริงและสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไปทางประวัติศาสตร์ แล้วพยายามเชื่อมโยงที่มาที่ไป ทำไม เราจำเป็นต้องรอด

ในบริบทนี้ ให้มองเรื่อง Economic เป็นสำคัญครับ

ในช่วงเวลานั้น ก็ยังมีประเด็นเรื่อง Genocide, Ethnic Cleansing และ การจัดการทางด้านประชากร
ช่วงนั้น จีนแดง และ ก๊กมินตั๋ง ก็ทำสงครามกันอยู่ ก๊กมินตั๋ง ถูกต้อนออกไป ไต้หวัน และ ลงมาไทย ลงมา มาเลยื และกลายเป้นจีนโพ้นทะเล
และ หลายๆท่าน ก็มาพำนัก และกลายเป็นประชากร ไทย เชื้อสายจีน (Thai Chinese – ผมมองว่าอาจเป็นคำที่จะทำให้ Racist ในสิงคโปร์ ไม่มีการเขียนสิงคโปร์ เชื้อสายจีน เขารวบๆ เป็นสิงคโปเรี่ยนกันหมด) เอาเป็นว่าไม่ต้องไปแบ่ง การเมือง สงคราม สร้างชาติ และ อธิปไตยชาติไปแล้ว Thai is Thai มองแบบนี้ มันจบกว่า และ มองเรื่อง บริบทของ Economic เป็นสำคัญ.

ที่กล่าวเรื่อง Genocide ไม่ใช่แค่ไทยเชื้อจีน แต่แขกเชื้อไทย ฮินดู ซิกส์ มลายู ขาวเขา กระเหรี่ยง ลาวโซ่ง ญวน ล้วนจะได้รับผลกระทบในแบบเดียวกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลหลัก ทำไม วันนี้ จึงเป็นวันที่คนเศร้ามากๆ เพราะเขาเกิดและใช้ชีวิตผ่านช่วง สงครามเย็นมาทั้งนั้น

รุ่นเด็กๆ ที่โตมาจาก กระแส นักร้องเกาหลี แต้นส่ายตูด แหกจิ๋ม เปิดหวอ และ ดาราพริตตี้ ถ่ายรูปลง IG ขี่ Benz Sport ฉีด กลูต้า ขายลงเฟสบุ๊ค เหล่านี้ ไม่ได้ มี Reaction หรือ ซึมซับ ในช่วงยุคสงครามเย็น

ผมเลยมองเห็นเป็นสองมิติ ที่เป็นเส้นแบ่งชัดเจน คือ ช่วงชีวิต ที่ทัน สงครามเย็น และ ช่วงที่ชีวิต ที่เป็น Mass Media
พวก Gen. Y และ ค่อนไป Gen Z ก็จะไม่ได้รับ Socialization ในช่วงยุคสงครามเย็น เพราะเรา กลายเป็นบริโภคนิยมไปในตัวแล้ว เราใช้สมองขบคิดน้อยลง เราปล่อย Emotion และ แรงบันดาลใจในแบบ Individualism มากขึ้น
ทำให้เห็น เส้นแบ่งของคนสองยุค ระหว่าง X || Y+Z อย่างชัดเจน ทางผมเอง เป็น X และ Y ผสมๆกัน และ คุยกับ Z ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว

กลับมาที่ Genocide.

ตัวอย่างที่ชัดเจน คือช่วง ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ของเขมรแดง และ พวก การฆ่าล้างกลุ่มกระเหรี่ยง ในสหภาพเมียนม่า ในสมัยที่ ทั้งสองประเทศ ใช้ลัทธิทางการทหาร ผนวกกับ ลัทธิสังคมนิยม ที่ยังไม่ใช่แบบ คอมมิวนิสต์ แต่เรา เข้าใจรวมๆ ว่าพวกเขาเป็นแดง คอมมิวนิสต์

ในบริบทพวกนี้ ทำให้ผมเอง มองเห็นภาพลางๆ ที่ผมเติบโตมา มักจะมีเหตุปะทะ การยิง การหยุดยิง และ ผู้ก่อการร้าย ผกค. อะไรแบบนี้
มันคือเรื่อง การผลักดันอิทธิพล ของจีน และ โซเวียต ในยุคสงครามเย็น

ที่กล่าวมา นี่คือ จุดเชื่อมโยงหนึ่ง ในคำค้น “Cold War era repression”

ต่อมา “post-Cold War period” ก็เป็นเรื่องของ สงครามใน ตะวันออกกลาง อิรัก อิหร่าน ซีเรีย และพัฒนาการเป็นสงครามศาสนา และ การเป็นรูปแบบการก่อการร้าย ประเทศไทยก็มีกลุ่มโจรใต้เข้ามา ปัจจัยพวกนี้ นอกจากความเชื่อแล้ว มีเรื่องลับๆ ใต้ดิน ที่ไม่สามารถเผยแพร่ในบทความ ในบล๊อกแห่งนี้ได้ ทั้งเรื่อง Trading การต่อรอง และ เรื่อง เวลา การผูกกันของเหตุปัจจัยเหล่านี้ เป็นศาสตร์สำคัญที่ผมศึกษาใน การเก็งกำไร และ Value ที่ส่งผ่านมาจาก Transaction และ ระบบธนาคาร

การค้นคว้า เรื่อง Cold War Era Repression และ Drama Reaction ในบทความนี้ ขอยุติประมาณนี้ เพราะ ต้องกลับไป research เรื่องการเก็งกำไร จาก Transaction อย่างด่วนที่สุด แต่ผมขอสรุปนะครับ ให้พยายาม มอง ความเชื่อมโยง แล้วคุณจะเข้าใจ ทำไม ต้องมี ไอ้นี่ ทำไม ต้องเกิดไอ้นั่น แล้วจึงจะเริ่มจับจังหวะ การเก็งกำไร ได้จริงๆครับ

 

การเก็งกำไร (Speculation) แตกต่างจาก การลงทุน (Investment) อย่างไร

ช่วงนี้ต้องมารับงานใหญ่ สำหรับ จัดแจงจัดการ เรื่อง การแลกเงินตราในต่างประเทศ และ พยายาม นำหนังสือที่เป็น ระดับตำนาน – ชื่อว่า “The Intelligent Investor” ซึ่งผมนำมาอ่านส่วนตัว ตั้งแต่ปี 2015 แล้ว และติดตาม การลงทุนในหุ้น สาย VI

ในหนังสือ ก็มีคำว่า “Speculation” เขียนอยู่ในนั้น ตำรานี้ทรงคุณค่า และทำให้เราเข้าใจเรื่อง Value และ Time ว่ามัน สัมพันธ์กันอย่างไร และ อะไร คือปัจจัย การทำ กำไร (Profit) ในเรื่องของการ “ลงทุน”

สำหรับบทความนี้ จะเขียน ในบริบทของ Speculation เพื่อทำความเข้าใจ เรื่องของ การเก็งกำไร และ ที่ผมได้รับโอกาสพิเศษ สำหรับงานใหญ่ ซึ่งเป็นโปรเจคใหญ่ ระดับโลกเลย เพื่อนผู้อ่าน จะเห็นว่าทำทำงานของการ Trade เงิน และ Margin ของการ trade เงิน เมื่อคุณเข้าใจในมิติ ของเวลา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ของเรื่องการทำเงิน ในศาสตร์ของ Forex.

ผมได้เรียนรู้ เรื่องของ Currency Trading ซึ่งเป็น Basic สำคัญ ที่ทำให้พื้นฐานเราแน่นขึ้น และ มีสติขึ้นเมื่อนำแนวคิดนี้ มาใช้ในการลงทุนในหุ้นสาย VI เมื่องานเขียนนี้ได้เผยแพร่ออกไป ก็อยากให้ เพื่อนๆ ได้มีโอกาสติดตาม ในระยะยาวครับ

ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องการเล่นหุ้น และ ไม่เคยอ่านข่าวหุ้น หรือติดตาม Fanpage ที่ดังๆ ในโลก โซเชี่ยว เพราะผมรู้ว่า อาการ “ตกเป็นเหยื่อ” หรือ การเป็น “แมงเม่า” ก็คือ การติดตามแหล่งข่าว ที่ปั้นข่าว หรือการ Follow ตาม Trend หรือ เอา Bias ของผู้เขียน ที่เราไม่เคยเห็นหน้า ค่าตา มาก่อน เอามาเป็นตัวตัดสินใจในการลงทุนให้หุ้น ซึ่ง “มืออาชีพ” เขาไม่ทำกัน

เอาเป็นว่า บทความนี้ จะเว้นเรื่องการเล่นหุ้นเพียงเท่านี้ก่อน ขอเข้าไปเรื่อง Speculation และ Definition ของมันกันครับ

Speculation คืออะไร ?

อันนี้ ได้อ้างอิงมาจากหลายๆแหล่ง จากต่างประเทศ ซึ่งเว็บดังๆ อย่าง “investopedia” ได้กล่าวถึงเรื่อง “Speculation” อย่างระเอียดและเข้าใจได้ง่าย ดังนี้

Speculation คือ การกระทำใดๆ ของการ แลกเปลี่ยน ในทรัพย์สิน หรือทำให้ การธุรกรรมการโอนทางการเงิน (Financial Transaction) ให้เกิดความเสี่ยงสูงอย่างมีนัยยะ !! (จำคำนี้ไว้นะครับ — บทความหน้าๆ จะเข้า เทคนิค ระดับ Advance เกี่ยวกับเรื่อง ความเสี่ยงอย่างมีนัยยะ ตัวนี้แหละ คือการทำกำไร อย่างมหาศาล ถ้าเข้าใจมัน และจับจังหวะได้) หมายถึง การเข้าหาความเสี่ยงสูงสุด เพื่อคาดหวัง ในการทำกำไร

เสี่ยงสูง เพื่อกำไร ?

คือการหา Momentum ของการได้กลับมาอย่างมหาศาล พูดง่ายๆ คือหาจังหวะ peak สูงๆ ของการขึ้นของ Value ในขณะนั้นๆ
สังเกตไหมครับ เมื่อมัน ขึ้นสูงแล้ว ข่าวลือจะตามมาทีหลัง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ผมจึงไม่ตามข่าวหุ้น เพราะเมื่อเปิด Internet และเจอพวก นี้ เล่น trend เล่นกระแส แล้วคุณดันไปอ่านมันเข้า นั่นมหายถึง คุณได้ตกเป็นเหยื่อพวกเขาแล้ว

อย่าอ่านครับ ค้นคว้าเอง แล้วเก็บเป็นความลับเอาไว้
ส่วน ความแตกต่างระหว่าง การลงทุน และ การเก็งกำไร ที่จะแปลจากบทวิเคราะห์ จาก Guru หลายๆแหล่งที่เชื่อถือได้ เป็นเรื่องของ ปัจจัยต่างๆ และ ธรรมชาติของ ทรัพย์สินนั้นๆ (น่าสนใจมาก) ตอนนี้ ผมได้ รับโครงการเกี่ยวกับ มูลค่าตัวเลข ลอยๆ ในการทำ Transaction แบบ วินาที แล้วคุณลองหลับตาหรือจินตนาการว่า มีคนจำนวน 3 แสนคนกำลัง trading อยู่ทุกๆวัน โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่า เขากำลังทำกำไรให้ใครอยู่ ซึ่งพวก บัตรเครดิต และ กลุ่ม Banking ก็ใช้หลักการนี้ทำเงินเหมือนๆกันครับ

หากคุณไม่ได้มีโอกาส เปิดธนาคาร หรือไม่ได้เป็นเจ้าของ ธนาคาร ก็ยังมีโอกาสสร้าง คำว่า Transaction ในการทำกำไรอยู่ จะมาเขียนบอกกันในนี้ครับ ว่ามันทำงานอย่างไร และขอบอกก่อนว่าไม่ใช่เรื่อง BitCoin หรือ Cryptocurrency นะครับ วางใจได้ เพราะทางผมเอง ไม่ได้ขุดเหมือง หรือจะชวนใครมาแชร์ค่า server มาขุดเหมือง ทำเงิน หรือแม้แต่จะคิดถึงเรื่อง เงินที่ไม่มีธนาคารรองรับ

ในมุมมองผม เล่น สิ่งที่มัน แปรธาตุ ไปเป็น Physical บนดิน ได้ง่าย มักจะทำกำไรได้ง่ายกว่า
ส่วนใครที่ เข้าใจเรื่อง การ trading ใต้ดิน ก็จะเข้าไปจับ Crypto-currency มากกว่า

เอาเป็นว่า สมองคุณ เห็นอะไร ชัด ก้ไปจับแบบนั้นนะครับ ทางผม ไม่เข้าไปออกความเห็น หรือไปชี้นำในการตัดสินใจ

สิ่งที่ผมสนใจที่สุดคือ

  • Time of Holding the High Risk – ระยะการถือครองความเสี่ยง
  • Amount of Leverage – จำนวนหรือ Size ของความเสี่ยงที่เราถือ

เนี่ยแหละ Area ของความเสี่ยง และ โอกาส ทวีคุณของการ ผลิตผลกำไร

การปลูกมะม่วง เรารอเก็บเกี่ยว ออกดอกออกผล
เช่นกัน แหล่งที่มาของกำไร มักจะมาจากทำเล และ เวลา และจังหวะครับ

ไม่มีอะไรยากเลย แค่อย่าไปหลงทาง และระวัง Bias หรือ ข่าวลือต่างๆ
เพราะมัน ไม่ได้เรื่อง และ ทำให้คุณ ขาดทุน

ต่อมา ตีแตก คำว่า “เก็งกำไร”

ที่ผมเห็นใน Investopedia ได้เสนอแนวคิดอย่างเช่น – Real Estate คือ พื้นที่ของเส้นแบ่ง ระหว่างคำว่า ลงทุน และ เก็งกำไร ที่ไม่ชัดเจน การซื้อ สินทรัพย์อสังหา โดยมีแนวคิดที่ว่าจะปล่อยเช่าแบบเสือนอนกิน อาจจะถูกนิยามในเชิงการลงทุนครับ ส่วนการซื้อคอนโดหลายๆห้องพร้อมๆกัน ด้วยจำนวนของ เงินดาวน์ จำนวนเล็กๆ เพื่อประโยชน์ของการ ขายซ้ำ (Reselling) พวกคอนโดเหล่านั้น อย่างรวดเร็ว เพื่อผลกำไร แบบเท่าตัว อาจจะมองว่าเป็นการ เก็งกำไร เรื่องของการเก็งกำไร สามารถแสดงออกถึงความคล่องตัวในตลาด คุณเองก็เริ่มเข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่า การเก็งกำไรแบบ Speculation คือการขายสั้นๆ ในขณะที่ราคามันแกว่งตัวสูง,

นั่นแหละ เลยเป็นที่มาของการจับจังหวะ ในการ trading ต่างๆครับ
อีกเรื่อง เวลาอยู่ในสนามรบจริงๆ นักลงทุน ต่างแบ่งรับแบ่งสู้ ทั้ง เก็งกำไร ทั้งลงทุน ไปพร้อมๆกันครับ
เช่น ซื้อ คอนโดมาจำนวนมากๆ ปล่อยเช่า หลายๆแห่ง แล้ว อันไหนปล่อยขายได้ก็ปล่อยขายเลย

ในฐานะที่เคยเป็นพนักงานประจำ เคยเป็น พี่ๆ Senior ที่เงินเดือนน้อยๆ แต่ทำเงินหลักห้าหกแสนได้ชิวๆ เขามี คอนโด และ หนี้ อยู่ พร้อมๆกัน แล้วเก็บคอนโดไปเรื่อยๆ ช่วงสองปีแรกไม่มีกำไร มีแต่หนี้ แต่เขารู้ว่าราคาจะไป ทำเลมันมา ทิศทางลมมาก็กางใบเรือครับ

แล่นเรือตามลม เรือเปล่าๆ ช้อนปลาโตๆได้มากมาย

แต่ของผม เน้น ปริมาณ transaction จำนวนมากๆ ก็ต้องเน้นดูเรื่อง การ Trade ค่าเงิน และ การไหลเวียนของเงินลงทุน และ เข้าใจจังหวะ Big Sale ว่าทิศทางไปทางไหน ถ้าเราดัก กระแสน้ำถูก เราไม่ต้องไปกางเรือใบครับ เราแค่ ทำท่อ และ วัดระดับ Rate ความแรงของกระแสน้ำ ที่สัมพันธ์กัน

เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมครับ ? โปรด ติดตาม ตอนหน้าครับ 😀

Currency Trading คืออะไร ?

คำนิยามของ “Currency Trading” ภาษาไทยว่า การซื้อขายค่าเงิน ซึ่งอาจมีความหมายที่แตกต่างกันไป ทาง XE ที่ผมเรียบเรียงมา เขามี Guide Basic เกี่ยวกับการทุ่นแรง ทุ่นเวลา และ ประหยัดต้นทุน จากการจ่ายเงิน หรือ โอนเงินตราระหว่างประเทศ
และการค้นหาช่องทางการส่งเงินที่ปลอดภัย โดยให้ไปดูที่ XE Money Transfer

ผมได้มีความสนใจเรื่องการ Trade ค่าเงิน และ ศึกษาดู กราฟ Forex แต่ยังคงไม่เข้าไปเล่นเต็มตัวครับ เพราะตอนนี้ เน้นศึกษาการลงทุนสาย VI ในหุ้น SET500 อยู่ ผมซื้อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล และ สนใจเรื่องการลงทุนที่ให้ Return ในระยะยาวกว่า เพราะโดยส่วนตัว ยังคงทำเงินสด และไม่อยากเอาเงินสดไปเ็งกำไร เนื่องจากความที่ยัง ไม่เชี่ยวชาญในเรื่อง Day Trade ทำให้เรามีข้อจำกัด และต้องมีสติ ระมัดระวัง เรื่องการลุงทุนในเรื่องเงินให้มากๆ ผมมีแนวคิดว่าจะไม่ เล่นหุ้น หรือเก็งเงินในแบบ การพนัน เพราะมองแล้ว มีแต่ความเสี่ยง การลุงทุนที่สมเหตุผล คือการลงทุนโดยใช้พื้นฐานของการขจัดความเสี่ยง และ อยู่ในความเสี่ยงที่เราสามารถแบกรับได้ ผมจึงเริ่มต้นศึกษา เรื่องการลงทุน และเก็งกำไร จากค่าเงิน ในบล๊อกแห่งนี้ เพื่อนำมาแชร์และเผยแพร่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำเงิน ให้แก่ เพื่อนๆ ใน Internet ครับ

บทความที่ผมแปลและเรียบเรียงมา จากบทความแหล่งต่างๆ เพื่ออธิบาย เรื่องของ การ ซื้อขายค่าเงิน ที่เรียกว่า Foreign Exchange หรือ เรามักคุ้นเคยกับคำว่า “Forex” เป็นตลาดค่าเงินครับ และการทำเงิน จากการค้าขายค่าเงิน ในตอนสมัยเด็กๆ มีเพื่อนมัธยม เป็นลูกเจ้าของกิจการใหญ่โต พวกเขา ต่างทำกำไรจากการ เก็งค่าเงิน เยน ซึ่งสมัยนั้น ในไทย คนใหญ่คนโต นิยม เก็งค่าเงินตัวนี้ครับ แต่สมัยนี้มันเริ่มนิ่งๆ ละ มีหวือหวาแบบแต่ก่อน

เราเรียกการเก็งค่าเงินในตลาดนี้ว่า “Speculative Forex Trading” แต่บทความนี้ผมขอเขียนแบบกลางๆ ในเชิงเนื้อหาข้อเท็จจริง ไม่ขอพูดเรื่อง แหล่งบริการนะครับ อยากให้เพื่อนๆ ที่สนใจ ไปมองหากันเอาเอง เพราะ ผมไม่ใช่ เอเย่น trade เงินครับ อยากให้เขียนเป็นความรู้สำหรับนักลงทุน ที่กำลังศึกษา และอยากให้ตระหนัก ถึงผลเสียก่อนมองถึงผลดีครับ

เพราะคนสูญเสีย ในตลาดนี้ มีมากกว่าคนได้ครับ
คร่าวๆ ในอัตตรา 1/999 ครับ ใครได้กำไร คือ คุณคือผู้ถูกเลือกจาก ธรรมชาติครับ

 

ดูบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด : Economics

เนื้อหาแหล่งที่มาจาก
http://www.xe.com/currencytrading/